Posted on Leave a comment

ควบคุมน้ำหนักไขมันลดลงดื่มนมถั่วเหลืองหรือนมไร้ไขมัน

นมถั่วหลือง

นมไร้ไขมันหรือนมถั่วเหลืองช่วยควบคุมน้ำหนัก

นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยนอร์เทิร์นอิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกาให้อาสาสมัครผู้หญิง ดื่มนมไร้ไขมันและนมถั่วเหลือง วันละ3 แก้ว เป็นเวลา 8 สัปดาห์

ผลการวิจัยพบว่าไม่ว่าจะดื่มนมไร้ไขมันหรือนมถั่วเหลือง

ล้วนช่วยให้น้ำหนักและไขมันลดลงในปริมาณเท่าๆกัน รวมทั้งช่วยให้เอวลดลงด้วย

นมถั่วหลือง
นมไร้ไขมันหรือนมถั่วเหลืองช่วยควบคุมน้ำหนัก

สำหรับผู้ที่ดื่มนมถั่วเหลือง ควรรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมสูง เช่น

ปลาตัวเล็กตัวน้อย กุ้งแห้ง กะปิและผักต่างๆ เพิ่มเติมด้วย เพราะป้องกันไม่ให้ร่างกายขาดแคลเซียม ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นในการเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง

 

เรื่องราวเพิ่มเติม ตัวช่วย ตอบโจทย์

❥เดนิมพลัส วันละเม็ด
เผาผลาญแทนออกกำลังกาย
❥ ใช้หลักการ เน้นการเบิร์น Burn และการบล็อค Block โดยทำให้ร่างกายสามารถทำการ Burn ได้ตลอดทั้งวัน โดยทำให้เกิด กระบวนการเมตาบอลิซึม Metabolism ได้ตลอดทั้งวัน ยับยั้งย่อยแป้ง + ดักจับไขมัน แล้วขับถ่ายออก

เดนิมพลัส
เคล็ดลับดูแลรูปร่าง
Posted on Leave a comment

สุดยอดสรรพคุณมะนาว

มะนาว

มะนาวเพิ่มภูมิคุ้มกัน

การดูแลระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรเลย

เพียงแค่บีบน้ำมะนาวครึ่งช้อนโต๊ะลงในน้ำเปล่าที่ต้องดื่มทุกวัน ควรดื่มในตอนเช้าจะดีที่สุด จะช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามินซีเกือบ 20 เปอร์เซ็นต์ ของปริมาณที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน

แม้จะเป็นปริมาณเพียงเล็กน้อยแต่ก็เป็นเพียงพอจะช่วยกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แล้วนอกจากนั้นยังช่วยให้หัวใจ เส้นเอ็น กระดูก และหลอดเลือด แข็งแรงอีกด้วย

ส่วนปริมาณวิตามินซีอีก 80% จะได้จากการรับประทานผักและผลไม้ในแต่ละวัน

หากกลัวว่าอาจรับประทานผลไม้ไม่เพียงพอก็ให้เพิ่มปริมาณน้ำมะนาวเป็นสองผล จะบีบในน้ำเปล่าหรือชาแล้วดื่มทีเดียว หรือดื่มในปริมาณน้อย แต่วันละหลายครั้งก็ได้

TIP..
เมื่อบีบมะนาวแล้วควรดื่มทันที ไม่ควรทิ้งมะนาวไว้นานกว่าครึ่งชั่วโมงเพราะจะทำให้วิตามินซีในมะนาวสลายไป

น้ำมะนาว
เพิ่มภูมิคุ้มกัน

 

ถ้าเรามองประโยชน์ชัดๆ ของมะนาว ที่ไม่ต้องไปรักษาโรคภัยที่สลับซับซ้อนทั้งหลาย แค่โรคและอาการที่สามารถดูแลตนเองได้

ประโยชน์จากมะนาวก็มีมากมาย ตั้งแต่ความรู้พื้นฐานว่ามะนาวเปี่ยมไปด้วยวิตามินซี และยังมีกรดซิตริกตามธรรมชาติ วิตามินซี ความเปรี้ยวและฤทธิ์ของกรดนี้มีส่วนช่วยให้อารมณ์แจ่มใส คลายเครียด และช่วยแก้ความอ่อนล้าอ่อนเพลีย
เคยสังเกตไหม เวลาเหนื่อยๆ หรือต้องการความสดชื่น ถ้าได้ดื่มน้ำมะนาวเย็นๆ แล้วชื่นใจ ใครที่กำลังวิตกกังวล เครียด ให้น้ำมะนาวดีกว่าไปปรับทุกข์กับสุรายาดอง

วิตามินซีนั้นยังช่วยบรรเทาอาการหวัด และขอบอกด้วยว่า กรดซิตริกที่มีในน้ำมะนาวนั้น กรดชนิดนี้มีสรรพคุณช่วยลดไข้ ลดอาการอักเสบได้ และกรดซิตริกในมะนาวยังมีความแปลกตรงที่ความเปรี้ยวของเขาแต่กลับมีฤทธิ์สมานได้ดีเหมือนสมุนไพรรสฝาดสมานด้วย จึงพอพูดทำนองว่ามะนาวรสเปรี้ยวแต่ก็มีฤทธิ์สมานนั่นเอง ซึ่งถ้ามองด้วยสายตาตามภูมิปัญญาแพทย์แผนไทย ก็เหมือนมะนาวเป็นข้อยกเว้นในเรื่องรสยาฝาดสมานด้วย
การมีรสเปรี้ยว มีวิตามินซีช่วยอาการหวัด และฤทธิ์สมานนี้ นำมาใช้ปรุงเป็นยาสมุนไพรที่ทุกครัวเรือน

น่าจะเรียนรู้นำไปใช้ในการแก้อาการไอ เจ็บคอ และวิธีปรุงน้ำมะนาวจิบกินนั้นง่ายมาก ให้ใช้น้ำมะนาว 1 ส่วน น้ำสุก 1 ส่วน น้ำผึ้ง 1 ส่วน หรือเป็นน้ำตาลอ้อยหรือน้ำเชื่อมก็ได้ แต่งเกลือนิดหน่อย ผสมให้เข้ากัน ใช้จิบบ่อยๆ ขอให้ใช้จิบ อย่าดื่มรวดเดียวเพราะจะไม่ช่วยแก้อาการไอเจ็บคอ ขอแนะนำไว้สักนิดว่า น้ำสุกที่ผสมไม่ควรเป็นน้ำร้อนเพราะจะไปสลายวิตามินซีในมะนาวออกไป

วิธีที่ง่ายที่สุดอีกวิธีในการช่วยแก้ไอ เจ็บคอ หรือแก้เสียงแหบแห้งคือ ตื่นนอนตอนเช้าให้ผ่ามะนาวครึ่งลูก จิ้มเกลือบีบลงคอ ทำวันละครั้งพอ ทุกเช้า

เปลือกมะนาวก็เป็นยา แม้ว่ามะนาวจะราคาถูก เปลือกมะนาวก็ไม่น่าจะทิ้งขว้าง เคยสังเกตส้มตำอีสานหรือไม่ นอกจากปรุงให้อร่อยต้องใส่เปลือกมะนาวลงไปด้วย เปลือกมะนาวยังมีประโยชน์ ดังความรู้ของคนโบราณที่สืบต่อมาว่าให้อมหรือเคี้ยวเปลือกมะนาวจะแก้เจ็บคอได้ แล้วก็มีการศึกษาของต่างชาติพบว่าเปลือกมะนาวมีสารจำพวกคล้ายๆ สเตียรอยด์ธรรมชาติ ซึ่งออกฤทธิ์ลดการอักเสบ

การอมและเคี้ยวมะนาวพร้อมเปลือกจึงได้สรรพคุณยาสมุนไพรนั่นเอง

มะนาวยังมีประโยชน์อื่นๆ อีกมาก รวมถึงใช้เป็นยาภายนอก รักษาสิว บำรุงผิว ฯลฯ แต่อยากจะแนะนำตำรับยาตามภูมิปัญญาดั้งเดิมขนานหนึ่งว่า ยาอายุวัฒนะ ตำราให้นำมะนาว 50 ลูก (ล้างน้ำสะอาดแล้วผึ่งให้แห้ง) ผสมน้ำผึ้งลงไป 1 ขวดกลม แล้วใส่พริกไทยร่อนตำให้ละเอียดลงไป 1/2 แก้ว แช่หรือโบราณเรียกว่าดองน้ำผึ้งไว้อย่างน้อย 3 วัน (มากกว่านี้ได้) แล้วให้กินมะนาวดองน้ำผึ้งผสมพริกไทยนี้วันละ 1 ลูก (กินน้ำผึ้งด้วยก็ได้) ถือว่าเป็นยาบำรุงร่างกายตำรับหนึ่งที่ทำง่าย และน่าทำช่วงมะนาวราคาถูกเช่นนี้

มะนาวเป็นทั้งอาหารและยาสมุนไพรที่ใกล้ตัว ราคาถูก
แต่ถ้าได้พลังผู้บริโภคมาช่วยใช้กันมากๆ ก็จะช่วยชาวสวนและเศรษฐกิจฐานรากของสังคมไทยด้ว

เรื่องราวเพิ่มเติม ตัวช่วย ตอบโจทย์
https://789beauty.com/

เดนิมพลัส วันละเม็ด
เผาผลาญแทนออกกำลังกาย
❥ ใช้หลักการ เน้นการเบิร์น Burn และการบล็อค Block โดยทำให้ร่างกายสามารถทำการ Burn ได้ตลอดทั้งวัน โดยทำให้เกิด กระบวนการเมตาบอลิซึม Metabolism ได้ตลอดทั้งวัน ยับยั้งย่อยแป้ง + ดักจับไขมัน แล้วขับถ่ายออก

เดนิมพลัส
เคล็ดลับดูแลรูปร่าง

 

 

Posted on Leave a comment

10 วิธีเผาผลาญแคลอรี่ อย่างง่ายๆ

เผาเผาลาญ
เผาผลาญ แคลอรี่
10วิธีการเผาผลาญแคลอรี่อย่างง่าย

วันนี้เรามีวิธีการเผาผลาญแคลอรี่อย่างง่ายๆ ที่ใครก็ทำได้มานำเสนอ

10. นอนหลับ

การนอนหลับสนิท ความลับที่เพิ่งจะค้นพบก็คือ กล้ามเนื้อเรียบในร่างกายเรา จะทำงานเผาผลาญแคลอรี่ ได้ดีที่สุดในชั่วโมงหลังๆ ที่เราหลับสนิทเต็มที่ ร่างกายจะหลั่งฮอร์หนุ่มสาว โกรธฮอร์โมน อีกด้วย ควรพักผ่อนอย่างน้อยวันละ 8ชั่วโมง และยิ่งนอนดึกยิ่งอ้วนอีกด้วย

9. อย่าเครียด

ความเครียดจะทำให้เราอ้วนขึ้น เพราะฮอร์โมนคอร์ติโซนจะไปทำให้อัตราดูซึมของเมตาบอลิซึ่มช้าลง

8.ดื่มน้ำเยอะ

การดื่มน้ำในปริมาณมากพอต่อวัน จะช่วยขับสารพิษ หลังจากที่ร่างกายเผลาผลาญพลังงานแล้ว น้ำเย็นๆ ยังช่วยกระตุ้นให้เมตาบอลิซึ่มทำงานดีขึ้นนิดหนึ่งด้วย วิธีดื่มน้ำที่ถูกต้อง ดื่มบ่อยๆทุกครึ่งชั่วโมง หรือทุกชั่วโมง ต่อน้ำหนักตัว25kg. ต่อน้ำ1 ลิตร ต่อวัน เช่น น้ำหนัก 50 ต้องดื่มน้ำไม่ต่ำกว่า 2ลิตร ต่อวัน

7.ดื่มชาเขียว

เครื่องดื่มชาเขียว เป็นเครื่องดื่มที่ช่วยเร่งเมตาบอลิซึ่มได้ดีและปลอดภัยกว่ากาแฟ แถมมีประโยชน์อีกด้วย

6.กินอาหารเผ็ดร้อน

การรับประทานอาหารประเภทเผ็ดร้อน รสจัด จะช่วยเร่งการเผาพลาญร่างกายของคุณจากภายในให้รวดเร็วยิ่งขึ้นไปอีก

5.กินอาหารเช้า

เป็นความจริงที่ว่า คนที่กินอาหารเช้าที่มีประโยชน์ หุ่นดีกว่า คนที่อดข้าวเช้า และอาหารเช้ายังทำให้ระดับ เมตาบอลิซึ่ม ของคุณวันนั้นพุ่งเป็น 2 เท่าด้วย

4.งดน้ำตาล

เหตุผลง่ายๆ ก็คือ น้ำตาลที่เหลือใช้แล้ว ร่างกายจะแปรสภาพเป็นไขมัน เพราะฉะนั้น ลดน้ำตาล ก็จะช่วยลดไขมันไปในตัว ต่อหนึ่งวัน ไม่ควรได้รับน้ำตาล เกิน4ช้อนชา

3.กินบ่อยๆ

ยิ่งร่างกายคุณขาดสารอาหาร กล้ามเนื้อก็จะล้า การเผาผลาญก็จะน้อยลง ทางที่ดีกินเป็นมื้อเล็กๆ วันละ 3-4 มื้อ ยังดีกว่าอดอาหารไปเลย ยิ่งอดคาร์โบรไฮเดรต มวลกล้ามเนื้อยิ่งหาย  มีผลกับระบบการเผาผลาญในร่างกาย เพิ่มมวลกล้ามเนื้อโดยการเพิ่มสารอาหารกลุ่มโปรตีน หรือ ออกกำลังกาย

2.ขยับตัว

อยากจะเผาผลาญแคลอรี่ให้เร็วที่สุด ก็ต้องออกกำลังกายอย่างน้อย ออกเดิน 30 นาที หรือ 1 ชม. วิ่งเหยาะๆ หรือเต้นแอโรบิกอาทิตย์ละ 3 ครั้ง ไม่ว่าจะออกกำลังกายแบบไหนก็ช่วยเพิ่มเมตาบอลิซึ่มทั้งนั้นล่ะ ให้หัวใจได้เต้นแรงเต็มที่ 120 ครั้งต่อนาที ให้ต่อเนื่องนานสัก 30-45 นาที

1.เสริมสร้างกล้ามเนื้อ

“ยิ่งคุณมีกล้ามเนื้อเรียบมาก ร่างกายคุณก็จะเผาผลาญพลังงานมาก” การยกดัมเบลล์อย่างน้อยอาทิตย์ละ 2 ครั้ง ก็จะช่วยเพิ่มเมตาบอลิซึ่ม เหมือนกัน และช่วงที่ระดับเมตาบอลิซึ่มคุณจะพุ่งสุดขีดนั่นเอง ไม่ใช่ตอนที่คุณวิ่งหอบแฮกๆ บนสายพานหรอกนะแต่หลังจากนั้นอีกสัก 2- 3 ชม.

เรื่องราวเพิ่มเติม ตัวช่วย ตอบโจทย์

❥เดนิมพลัส วันละเม็ด
เผาผลาญแทนออกกำลังกาย
❥ ใช้หลักการ เน้นการเบิร์น Burn และการบล็อค Block โดยทำให้ร่างกายสามารถทำการ Burn ได้ตลอดทั้งวัน โดยทำให้เกิด กระบวนการเมตาบอลิซึม Metabolism ได้ตลอดทั้งวัน ยับยั้งย่อยแป้ง + ดักจับไขมัน แล้วขับถ่ายออก

เดนิมพลัส
เคล็ดลับดูแลรูปร่าง
Posted on Leave a comment

ลดน้ำหนัก รับประทานคาร์โบไฮเดรตน้อยเสี่ยงมะเร็ง

ลดน้ำหนัก กินคาร์โบไฮเดรตน้อย

ลดน้ำหนักให้ถูกวิธี ห่างไกลโรคร้าย

ลดน้ำหนักรับประทานคาร์โบไฮเดรตน้อย หรือไม่รับประทานคาร์โบไฮเดรตเลย ทำให้แบคทีเรียที่ช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ลดลงถึง 4 เท่า

เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่รับประทานกับ คาร์โบไฮเดรต มากกว่า การเลิกรับประทานคาร์โบไฮเดรตไปเลย ไม่ใช่วิธีที่เหมาะสมในการลดน้ำหนักเพราะแม้น้ำหนักลดลงแต่กลับเสี่ยงเป็นมะเร็งมากขึ้น

วิธีที่ดีกว่า ควรเลือกคาร์โบไฮเดรตไฟเบอร์สูง อย่างข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีท

ปริมาณแคลอรี่ต่อวัน

คาร์โบไฮเดรต
ลดน้ำหนักอย่างถูกวิธี

เรื่องราวเพิ่มเติม ตัวช่วย ตอบโจทย์

❥เดนิมพลัส วันละเม็ด
เผาผลาญแทนออกกำลังกาย
❥ ใช้หลักการ เน้นการเบิร์น Burn และการบล็อค Block โดยทำให้ร่างกายสามารถทำการ Burn ได้ตลอดทั้งวัน โดยทำให้เกิด กระบวนการเมตาบอลิซึม Metabolism ได้ตลอดทั้งวัน ยับยั้งย่อยแป้ง + ดักจับไขมัน แล้วขับถ่ายออก

เดนิมพลัส

เคล็ดลับดูแลรูปร่าง

Posted on Leave a comment

ตักบาตรเทโว 2018

ตักบาตร

ความหมายของตักบาตรเทโว

ตักบาตรเทโว หรือภาษาอังกฤษคือ Tak Bat Devo and Chak Phra Festivals คำว่า ตักบาตรเทโว มาจากคำเต็มว่า ตักบาตรเทโวโรหณะ ซึ่งแปลว่า การหยั่งลงจากเทวโลก เป็นการตักบาตรเนื่องในโอกาสที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ซึ่งคัมภีร์อรรถกถาธรรมบทบันทึกไว้ว่า เมื่อพระพุทธเจ้าแสดงยมกปาฏิหาริย์ (ปาฏิหาริย์เป็นคู่ ๆ) ที่ต้นมะม่วงใกล้เมืองสาวัตถีแล้วก็เสด็จขึ้นไปจำพรรษาที่ 7 บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เพื่อเทศนาพระอภิธรรมโปรดพุทธมารดาเป็นเวลา 3 เดือน ครั้นออกพรรษา แล้วพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงเสด็จลงสู่มนุษย์โลกทางบันไดพาดลงใกล้เมืองสังกัสสะ

ตักบาตรเทโว
ตักบาตรเทโว

ประวัติความเป็นมาของวันตักบาตรเทโว

วันตักบาตรเทโว หมายถึง วันทำบุญตักบาตรในเทศกาลวันออกพรรษา ตามความเชื่อของพุทธศาสนิกชนว่า เป็นวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์หลังจากเทศนาอภิธรรมปิฎกโปรดพุทธมารดา

ทั้งนี้คำว่าเทโว ย่อมาจากคำว่า เทโวโรหณะ ซึ่งแปลว่า การหยั่งลงจากเทวโลก ซึ่งหมายถึง การเสด็จลงจากเทวโลกของพระพุทธเจ้า ตามตำนานกล่าวว่า เมื่อพระพุทธองค์ได้ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว ทรงเทศนาโปรดประชาชนในแคว้นต่าง ๆ ของอินเดียตอนเหนือ ตั้งแต่เมืองราชคฤห์ เมืองพาราณสี เมืองสาวัตถี ตลอดถึงเมืองกบิลพัสดุ์ ซึ่งเป็นปิตุภูมิของพระองค์ ทรงเทศนาโปรดพระประยูรญาติทั้งหลายถ้วนหน้า แล้วทรงปรารถนาจะสนองพระคุณมารดา ที่หลังประสูติพระองค์ได้ 7 วัน ก็สิ้นพระชนม์ และได้ไปเกิดเป็นนางสวรรค์อยู่ในสวรรค์ชั้นดุสิต ฉะนั้นในพรรษาที่ 7 หลังจากตรัสรู้ พระพุทธองค์จึงเสด็จขึ้นไปจำพรรษาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เทศนาพระอภิธรรมปิฎกโปรดพระพุทธมารดาอยู่พรรษาหนึ่ง ถึงวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 จึงเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์มาประทับที่เมืองสังกัสสะ จากนั้นประชาชนได้พากันไปเฝ้าพระพุทธองค์เพื่อทำบุญตักบาตรอย่างหนาแน่น

ตักบาตรเทโว

ด้วยเหตุนี้จึงถือว่าวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 เป็นวันคล้ายวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จจากเทวโลกลงมาสู่เมืองมนุษย์ บรรดาพุทธศาสนิกชนจึงนิยมตักบาตรกันเป็นพิเศษ เป็นประเพณีสำคัญสืบต่อกันมาจนถึงทุกวันนี้ เรียกว่า “ตักบาตรเทโว” โดยพระสงฆ์จำนวนมาก นำโดยพระพุทธรูปเดินลงบันไดจากมณฑปพระพุทธบาท ลงมารับบิณฑบาตข้าวสารอาหารแห้งจากพุทธศาสนิกชน โดยอาหารที่นิยมตักในวันนั้น นอกจากข้าวและอาหารคาวหวานธรรมดาแล้ว ก็จะมีข้าวต้มลูกโยนด้วย ซึ่งบางท่านสันนิษฐานว่าในครั้งนั้นผู้คนรอใส่บาตรกันแออัดมาก เข้าไม่ถึงพระ จึงใช้ข้าวก่อหรือปั้นโยนลงบาตร การตักบาตรเทโวจึงเป็นการทำบุญอย่างมโหฬารของพุทธศาสนิกชนนับแต่นั้นมา

ตักบาตรเทโว 2561 ปีนี้ตรงกับวันที่ 25 ตุลาคม 2561 ซึ่งเป็นวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 หรือหลังวันออกพรรษา 1 วัน

ภาพจาก Boonsom / Shutterstock.com

ตักบตรเทโว

วิธีตักบาตรเทโว

วิธีตักบาตรเทโว ในแต่ละภาคแต่ละจังหวัดอาจมีความแตกต่างกันไป แต่ส่วนใหญ่ที่นิยมปฏิบัติตามกันมามีดังนี้

– จัดเตรียมขบวนรถทรงหรือคานหามพระพุทธรูป เพื่อชักหรือหามนำหน้าพระสงฆ์ในการรับบาตร หรือจะให้อุบาสกอุบาสิกาเป็นผู้เชิญพระพุทธรูปก็ได้

– พระพุทธรูปที่จะเชิญนิยมพระพุทธรูปปางอุ้มบาตร ถ้าไม่มีอาจใช้ปางอื่น ๆ แต่ให้เป็นพระพุทธรูปยืน

– พุทธศาสนิกชนเตรียมภัตตาหารใส่บาตร โดยเฉพาะข้าวต้มลูกโยนที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของพิธีทำบุญตักบาตรเทโวโรหณะ

– มีการแสดงพระธรรมเทศนาหลังใส่บาตรเสร็จ

ประเพณีการตักบาตรเทโว นับว่าเป็นประเพณีทางพุทธศาสนาที่สมควรอนุรักษ์ไว้ เพราะประเพณีนี้ นอกจากจะแสดงให้เห็นว่าพุทธศาสนิกชนยังมีความเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนาแล้ว ยังเป็นประเพณีที่มีคุณค่าด้านอื่นอีกด้วย เช่น เป็นการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และทำให้เกิดความสามัคคีระหว่างชาวบ้านกับวัดอีกด้วย

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
– nmt.or.th
– dmc.tv
– student.nu.ac.th
Posted on Leave a comment

โพแทสเซียมช่วยให้อายุยืน

ผลการวิจัยจากสหรัฐอเมริกา พบว่าผู้ที่ร่างกายได้รับโพแทสเซียมต่ำและรับประทานเกลือสูง มีแนวโน้มจะเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ ซึ่งเสี่ยงที่จะหัวใจวายเพิ่มขึ้นถึงสองเท่า

อย่างไรก็ตามนักวิจัยพบว่าการรับประทานอาหารที่มีโพแทสเซียมสูง ช่วยลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรลงได้ 20 เปอร์เซ็นต์ โดยอาหารที่มีโพแทสเซียมสูง ได้แก่ กล้วย มันฝรั่งมันเทศ แครอท มะเขือเทศ และมะละกอ เป็นต้น

เรื่องราวเพิ่มเติม ตัวช่วย ตอบโจทย์
https://789beauty.com/

เดนิมพลัส วันละเม็ด
เผาผลาญแทนออกกำลังกาย
❥ ใช้หลักการ เน้นการเบิร์น Burn และการบล็อค Block โดยทำให้ร่างกายสามารถทำการ Burn ได้ตลอดทั้งวัน โดยทำให้เกิด กระบวนการเมตาบอลิซึม Metabolism ได้ตลอดทั้งวัน ยับยั้งย่อยแป้ง + ดักจับไขมัน แล้วขับถ่ายออก

เดนิมพลัส

Posted on Leave a comment

กินป้องกันเหี่ยว

แสงแดดเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำร้ายผิวหนังนอกจากเสี่ยงเป็นมะเร็ง แล้วยัง…
ทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่นก่อนวัยอันควรอีกด้วยการรับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระฟลาโวนอยด์สูง..ช่วยลดอาการดังกล่าว

จากการทดสอบให้ผู้หญิงรับประทานสารฟลาโวนอยด์ วันละ 329 มิลลิกรัม(เท่ากับดื่มเครื่องดื่มช็อกโกแลตเข้มข้น3.5ออนซ์) เป็นเวลา 12 สัปดาห์

พบว่าช่วยป้องกันไม่ให้ผิวหนังมีรอยแดงจากการอยู่กลางแดดเป็นเวลานานได้ 25 เปอร์เซ็นต์ เพราะฟลาโวนอยด์ มีส่วนช่วยให้เลือดภายในเซลล์ผิวหนังไหลเวียนได้ดีขึ้น จึงป้องกันเซลล์ผิวหนังจากการถูกแสงแดดทำร้ายได้

อาหารที่มีโฟลวานอยด์สูง ได้แก่ช็อกโกแลต ชาดำ ชาเขียว กะหล่ำปลี แอปเปิ้ลแดง และบรอกโคลี เป็นต้น

เรื่องราวเพิ่มเติม ตัวช่วย ตอบโจทย์
https://789beauty.com/

เดนิมพลัส วันละเม็ด
เผาผลาญแทนออกกำลังกาย
❥ ใช้หลักการ เน้นการเบิร์น Burn และการบล็อค Block โดยทำให้ร่างกายสามารถทำการ Burn ได้ตลอดทั้งวัน โดยทำให้เกิด กระบวนการเมตาบอลิซึม Metabolism ได้ตลอดทั้งวัน ยับยั้งย่อยแป้ง + ดักจับไขมัน แล้วขับถ่ายออก

เดนิมพลัส

Posted on Leave a comment

อย่ามองข้ามมันเทศ

มันเทศอุดมไปด้วย วิตามินเอ วิตามินซีโฟเลต วิตามินอี ธาตุเหล็ก แคลเซี่ยม
นอกจากนี้ ยังมีไฟเบอร์สูงอีกด้วย

เมื่อเทียบกันแล้ว มันเทศมีสารอาหารต่างๆมากกว่าแครอท และมันฝรั่งเสียอีก และถ้าหากรับประทานมันเทศทั้งเปลือก จะช่วยให้ร่างกายได้รับ..เบต้าเคโรทีนเพิ่มขึ้น ถึง4 เท่า

ผลการวิจัยพบว่าการที่มันเทศ  มีสารอาหารสำคัญต่างๆสูง  ช่วยป้องกันโรคร้ายหลายโรค  เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง  รวมทั้งอัลไซเมอร์ด้วย

เรื่องราวเพิ่มเติม ตัวช่วย ตอบโจทย์
https://789beauty.com/

เดนิมพลัส วันละเม็ด
เผาผลาญแทนออกกำลังกาย
❥ ใช้หลักการ เน้นการเบิร์น Burn และการบล็อค Block โดยทำให้ร่างกายสามารถทำการ Burn ได้ตลอดทั้งวัน โดยทำให้เกิด กระบวนการเมตาบอลิซึม Metabolism ได้ตลอดทั้งวัน ยับยั้งย่อยแป้ง + ดักจับไขมัน แล้วขับถ่ายออก

เดนิมพลัส

 

Posted on Leave a comment

เคล็ดลับหน้าเด็กตลอดกาล

เคล็ดลับหน้าเด็ก

การดูแลรักษาผิวหน้า…ชะลอความหย่อนยาน เคล็ดลับหน้าเด็กตลอดกาล


ความหย่อนคล้อย หรือเหี่ยวย่นของผิวหน้า เป็นสิ่งที่สาวๆ ทุกคนประหวั่นพรั่นพรึงยิ่งกว่าความตายเสียอีก โดยเฉพาะ… หากเป็นความเหี่ยวย่นที่มาถึงก่อนเวลาอันควร ยิ่งน่าสะพรึงกลัวเหลือเกิน สำหรับสาวๆ ที่ต้องแต่งหน้าทุกวันเพื่อไปทำงาน บางคนอายุเพียงแค่ 30 ปีกว่าๆ ก็มีผิวที่หย่อนยานลงซะแล้ว…

มีสาเหตุหลายประการที่ทำให้เกิดปัญหาดังกล่าว หลักๆ คือการขาดความรู้เรื่องผิวพรรณ และวิธีการดูแลที่ถูกต้อง เช่นการใช้เครื่องสำอางที่ไม่ถูกกับสภาพผิว อาจมากเกินไป หรือน้อยเกินไป เป็นต้น

วิธีการดูแล
ควรนวดหน้าทุกคืนด้วยตนเอง เป็นการกระตุ้นให้เซลล์ตื่นตัว เพื่อสร้างเซลล์ใหม่และผลัดเซลล์เก่าออก ทั้งยังช่วยให้การไหลเวียนของโลหิตไปหล่อเลี้ยงผิวดีขึ้น กล้ามเนื้อจะกระชับ ทำให้การหย่อนยานลดลง ส่วนการกดจุดบนใบหน้าวันละครั้ง ก็สามารถช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อและเส้นประสาท ทำให้การไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น เราสามารถกดจุดได้ทุกที่และทุกเวลา

เครื่องสำอางบางชนิดที่มีสรรพคุณกระชับผิวที่หย่อนยานให้เต่งตึงขึ้นก็สามารถช่วยได้ แต่ต้องทำเป็นประจำ มีให้เลือกหลายชนิด และมีชื่อต่างกันไป เช่น Essence Lighting Cream จะลองดูก็ได้ บางคนใช้ได้ผล ส่วนคนที่ใช้บ้างไม่ใช้บ้างอาจไม่ได้ผล สำหรับผู้ทีมีอายุมาก เช่น คน อายุ 60 ปีขึ้นไป อาจได้ผลน้อย
สำหรับท่านที่มีงบน้อย แนะนำให้ใช้ของในครัวเรือน เช่น น้ำมันงา น้ำมันมะพร้าวชนิดหีบเย็นนวดหน้า หลังจากนวดแล้วให้พอกผิวด้วยสูตรผักรวมบด เพื่อกระตุ้นให้ผิวสดชื่นเต่งตึงขึ้น ทำความสะอาดแล้วหลังจากนั้นใช้โลชั่นแตงกวาชโลมให้ทั่วใบหน้า สมานผิวกระชับรูขุมขน

สูตรบำรุงผิวจากธรรมชาติ
สูตรผักบด
• ใช้กับทุกสภาพผิว ประกอบด้วย แตงกวา มะเขือเทศ แครอท อะโวคาโด บดแล้วผสมนมผงให้เข้ากัน พอกหน้าทิ้งไว้ 10-20 นาที แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด ผิวจะขาวเต่งตึงขึ้น
โลชั่นแตงกวา
• ปั่นแตงกวาให้ละเอียด ใช้ผ้าขาวบางกรองให้เหลือแต่น้ำ ผสมน้ำสะอาดเท่าตัว ใส่ภาชนะมีฝาปิด นำไปแช่เย็น นำมาเป็นโลชั่นกระชับรูขุมขน ลดความมันได้
• ส่วนเนื้อของแตงกวา นำมาผสมกับไข่ไก่ 1 ฟอง และน้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ คนให้เป็นเนื้อเดียวกัน ใช้พอกหน้าทิ้งไว้ 15 นาที แล้วล้างออก จะทำให้ผิวที่หยาบกร้านหลุดออกไป ผิวหน้าจะสดชื่นเปล่งปลั่ง (แตงกวาควรเลือกที่ปลอดภัยจากสารเคมี)

เคล็ดลับที่ช่วยให้ผิวเต่งตึงเปล่งปลั่ง คือ การนวดหน้าอย่างสม่ำเสมอที่ทำได้ทุกวัน บางคนเข้าใจผิดคิดว่าการนวดหน้าทำให้ผิวเหี่ยวย่น จริงๆ แล้ว การนวดหน้าทำให้การไหลเวียนของโลหิตที่ไปหล่อเลี้ยงผิวนั้นดีขึ้น และยังกระตุ้นให้เซลล์เก่าและรูขุมขนขับน้ำมันออกมาตามปกติ การนวดหน้าสามารถทำได้ด้วยตนเองนะคะ ถึงจะเป็นแม่บ้าน เป็นสาวก้นครัว แต่ก็ยังสวยได้จริงๆ ค่ะ

✦คลิกที่รูป

❥ไม่ง้อเข็ม…

✦บอกลา ริ้วรอย ชะลอความชรา
สเปรย์ทั่วใบหน้า รักนางเลย??

✦เป๊ะเว่อร์ สีผิวสม่ำเสมอ ริ้วตื้น หน้าเรียบเนียน รูขุมขนตื่น ปรับรูปหน้า เริ่ดๆ ??

Posted on Leave a comment

ไฟเบอร์ สู้มะเร็ง

ไฟเบอร์สู้มะเร็ง

ไฟเบอร์เป็นหนึ่งในอาหารห้าหมู่ที่จำเป็นต่อร่างกายแต่ไม่ค่อยมีคนรู้จัก

การค้นพบ
มนุษย์เราสนใจบทบาทของไฟเบอร์กับสุขภาพมากกว่า 100ปีแล้ว โดยในปีค.ศ. 1820 – 1830 ซิลเวสเตอร์ เกรแฮม นักประดิษฐ์ชาวอเมริกาในฝั่งตะวันออก ได้แต่เวนเร่ขาย คุ้กกี้ไฟเบอร์ เรียกว่าเกย์แฮมแครกเกอร์ สวนกระแสความคิดของแพทย์สมัยนั้น ที่เชื่อว่าอาหารที่มีไฟเบอร์มากไม่ดีต่อสุขภาพเพราะเป็นอาหารแข็ง ย่อยยาก ความเชื่อนั้นดำรง มาจนถึงค.ศ. 1966 เมื่อศัลยแพทย์ชาวอังกฤษค้นพบว่า โรคหลายชนิดของคนตะวันตก เกิดจากการกินอาหารขัดขาว ที่เกิดจากไฟเบอร์ออกไปแล้ว การค้นพบครั้งนี้ก่อกระแสความสนใจในวงการแพทย์นำมาสู่การวิจัยในปีค.ศ. 1972 – 1976 โดยโทรเวลล์และเบอร์กิตต์ (Hugh P.Trowell,Denis P.Burkitt) ได้แสดงให้เห็นความสัมพันธ์ว่า

ใครที่กินอาหารไฟเบอร์เยอะๆ ก็จะมีคอเลสเทอรอลในกระแสเลือดน้อย

นอกจากนี้นักวิจัยทั้งสองยังชี้เห็นว่าไฟเบอร์ที่ไม่มีคนเห็นค่านี้อาจมีประโยชน์อย่างยิ่งต่อระบบทางเดินอาหาร

คนที่ควรกล่าวถึงอย่างยิ่งคนหนึ่ง คือนายแพทย์เจมส์ อดิสัน ผู้เป็นพ่อมดแห่งวงการไฟเบอร์หรือกากใยอาหารก็ได้ก็ว่าได้

เขาสอนอยู่ที่คณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยเคนทักกี และสนใจศึกษาเกี่ยวกับไฟเบอร์หรือกากใยอาหาร มานานนับ 10 ปีเพื่อหาคำอธิบายเชิงเภสัชวิทยาว่าไฟเบอร์ช่วยรักษาสุขภาพได้อย่างไร

โดยเฉพาะผู้ป่วยเบาหวานและโรคหัวใจคุณหมอเจมส์จะแนะนำคนไข้ของตนให้กินอาหารที่อุดมด้วยไฟเบอร์เพื่อลดระดับน้ำตาลในเลือดและสำหรับคนไข้โรคหัวใจจะทำให้การกำเริบของหัวใจลดลง

คุณประโยชน์
เราได้พบหลักฐานมากมายที่จะเชื่อได้ว่าเส้นใยกับช่วยป้องปกป้องมนุษย์จากโรคมะเร็งบางชนิด ลดอัตราเสี่ยงจากอาการหลอดเลือดเส้นเลือดเลี้ยงหัวใจตีบตัน ช่วยลดความอ้วน ช่วยคุมเบาหวาน และมีประโยชน์ต่อผู้ที่มีอาการท้องผูกและริดสีดวง

ผลต่อสุขภาพ
โรคหัวใจและคลอเรสเตอรอล
การวิจัยใหม่ใหม่บ่งชี้ว่าไฟเบอร์ในอาหารช่วยป้องกันโรคหัวใจ การศึกษาซ้ำๆในประชากรกลุ่มใหญ่หลายกลุ่มให้ผลตรงกันว่าคนที่กินอาหารที่มีไฟเบอร์สูงจะลดอัตราเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจได้และการวิจัยต่อมาพบว่าอาหารที่มีไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำจะจับตัวกับกรดชนิดหนึ่ง ในทางเดินอาหาร ซึ่งกรดตัวนี้ ถูกสร้างจากคอเลสเทอรอล เมื่อกดถูกไฟเบอร์จับไว้ ร่างกายจะดึงคอเลสเทอรอลในกระแสเลือดออกมาใช้สร้างกรดนี้ใหม่ ทำให้คอเลสเทอรอลถูกใช้หมดไปเรื่อยๆ

ผลการศึกษาในประชากรขนาดใหญ่อีกสองชิ้นยังพบว่าคนที่กินอาหารที่มีไฟเบอร์มากจะเกิดอาการความดันโลหิตสูงได้ยากกว่าคนทั่วไป

มะเร็งในลำไส้
หลายปีมาแล้วมีรายงานทางการแพทย์บ่งชี้ว่าคนญี่ปุ่นเป็นมะเร็งในลำไส้ต่ำกว่าคนอเมริกันมาก เดิมเชื่อกันว่าคงเป็นเพราะพันธุกรรม แต่ต่อมาเมื่อศึกษาลึกลงไปกลับพบว่าคนญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในอเมริกาก็เป็นมะเร็งลำไส้สูงเหมือนคนอเมริกันแสดงว่าการเกิดมะเร็งในลำไส้ไม่ได้มีสาเหตุจากพันธุกรรม

หลังจากนั้นไม่นานก็มีผู้ศึกษาอาหารที่ญี่ปุ่นกิน พบว่าคนญี่ปุ่นในอเมริกากินอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม จะมีโอกาสเป็นมะเร็งในลำไส้ต่ำกว่าคนญี่ปุ่นที่กินอาหารอเมริกันอย่างเห็นได้ชัด และเมื่อสาวลึกลงไปเรื่อยๆ เราก็ได้พบคุณประโยชน์ของอาหารที่มีไฟเบอร์งานวิจัยถึง 29 ชิ้นจาก 36 ชิ้นบ่งชี้ว่าไฟเบอร์ช่วยป้องกันมะเร็งในลำไส้ใหญ่ได้ ไฟเบอร์พวกนี้เป็นแบบไม่ละลายในน้ำ กลไกลการทำงานของไฟเบอร์ชนิดไม่ละลายในน้ำนี้ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่นักวิจัยบางท่านตั้งสมมุติฐานว่า
ไฟเบอร์ที่ไม่ละลายน้ำช่วยเพิ่มปริมาณอาหาร ทำให้มีกากอาหารเหลือเยอะ ส่งผลให้ร่างกายขับถ่ายได้มาก สารก่อมะเร็งที่อาจปนอยู่ในเศษอาหารจึงถูกขับออก ไม่ตกค้างในร่างกาย

ความอ้วน
เมื่อกินอาหารที่มีไฟเบอร์ ไฟเบอร์ที่ละลายน้ำได้จะเคลือบผิวกระเพาะ โดยทำปฏิกิริยากับกรดในกระเพาะอาหารได้สารข้นจำพวกเจลาติน ทำให้รู้สึกอิ่มเร็วและอิ่มนาน ความอยากอาหารลดลงมีประโยชน์กับคนที่ต้องการลดความอ้วน

ส่วนไฟเบอร์ชนิดไม่ละลายน้ำจะไม่ทำปฏิกิริยากับกรดในกระเพาะอาหาร เป็นเสมือนกากอาหารที่ช่วยเติมกระเพาะของคุณให้เต็ม ทำให้อาหารหนึ่งมื้อมีกากมากและพลังงานลดลงคุณจึงกินได้เท่าเดิมแต่อ้วนน้อยลงนอกเหนือกว่านั้น ไฟเบอร์ยังช่วยขัดขวางการดูดซึมไขมันและคลอเรสเตอรอลคุณกินอาหารที่มีไฟเบอร์เยอะๆ
มันจะทำหน้าที่เองอัตโนมัติโดยลดคอเรสเตอรอล ให้ได้ราว5-10%
แต่ที่สำคัญต้องเลือกไฟเบอร์ที่ถูกต้องควบคุมอาหาร และออกกำลังกายสม่ำเสมอนะคะ

เบาหวาน
มีการค้นพบว่าประชากรที่บริโภคอาหารที่มีไฟเบอร์มากๆ จะมีโอกาสเกิดเบาหวานต่ำกว่าคนที่เกิดไฟเบอร์น้อย และสำหรับคนที่เป็นเบาหวานอยู่แล้วไฟเบอร์จะควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้อีกด้วย สูตรอาหารแบบนิยมแนะนำผู้ป่วยเพื่อกลุ่มและน้ำตาลในเลือด คือการกินอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตและไฟเบอร์สูง

แนวคิดนี้ตรงข้ามกับความคิดเดิมๆที่ว่าคนเป็นเบาหวานควรกินคาร์โบไฮเดรตหรืออาหารจำพวกแป้งให้น้อยเข้าไว้
ด็อกเตอร์แอนเดอร์สัน ได้ทำการทดลองเปรียบเทียบ กับสูตรอาหารแบบดั้งเดิมกับการที่ให้ผู้ป่วยกินอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตและไฟเบอร์สูงหลายครั้งเขาพบผลลัพธ์ที่น่าอัศจรรย์ว่าสูตรอาหารคาร์โบไฮเดรตและไฟเบอร์สูงกลายเป็นหนทางควบคุมการที่ดีที่สุดเป็นรองก็แต่การฉีดด้วยอินซูลินเท่านั้น

อธิบายได้ว่า
อาหารที่มีแป้งสูง(ไม่ใช่น้ำตาลสูง) ช่วยให้ร่างกายจัดการกับกูโคสในเลือด ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

อาหารไฟเบอร์สูงช่วยทำให้การดูดซึมช้าลงส่งผลให้ไม่เจอตังค์ในเลือดสูง

การเผาผลาญน้ำตาลทำได้ง่ายกว่าเผาผ่านไขมันดังนั้นเมื่อกินอาหาร
คาร์โบไฮเดรตสูงย่อมทำให้ร่างกายทำงานพวกไขมัน
อาหารไฟเบอร์สูงช่วยลดน้ำหนักจึงช่วยลดความรุนแรงของเบาหวานแบบที่สอง
ทุกวันนี้ อาหารไฟเบอร์สูงจึงถูกคนไข้เบาหวาน

แหล่งไฟเบอร์จริงๆแล้วอาหารธัญพืชได้แก่ข้าวซ้อมมือ ข้าวโอ๊ต ข้าวฟ่าง
ลูกเดือย และผักผลไม้ ล้วนเป็นแหล่งอุดมของไฟเบอร์ แต่ในยุคกลางมีการปฏิวัติกระบวนการผลิตด้วยมือกลายเป็นเครื่องจักร ข้าวซ้อมมือกลายเป็นข้าวขัดขาว มีการแข่งขันด้านรสชาติเอาอันที่ระคายลิ้นออกไป เหลือแต่แป้งเปล่าแต่ขาดวิตามิน

มาถึงวันนี้ เรารู้แล้วว่าสิ่งที่เราขับออกไปให้หมูกินคือรำข้าว นั้นคือส่วนที่มีวิตามินสูงสุดมีไฟเบอร์มากที่สุดในเมล็ดข้าว แต่พวกเราก็ถูกสอนให้กินแต่ข้าวขัดขาว วัฒนธรรมการบริโภคเปลี่ยนไป จนไม่ยอมหันกลับมาหาแหล่งอาหารที่ทรงคุณค่าแบบดั้งเดิมโรคภัยไข้เจ็บจึงเกิดตามมามากมาย

ผลไม้ ไฟเบอร์(กรัม)
ส้ม 1 ผลกลาง 2.9
แอปเปิล 1 ผลกลาง 2.8
กล้วย 1 ผลกลาง 2.2
สับปะรด 1/3 ถ้วย 1.4
แคนตาลูป 1 ถ้วย 1.1

ผลไม้ 1 ผลกลาง ปริมาณเพกติก
(กรัม)

ส้มเขียวหวาน 2 ผล 0.9
ส้มโอ 1 ผล
แอปเปิล 1 ผล 0.7
พีช 1 ผล 0.6
สตรอเบอร์รี่ 2 ผล 0.5
กล้วย 1 หวี 0.4
องุ่นช่อกลาง 0.3
แตงโมซีก 0.1

เรื่องราวเพิ่มเติม ตัวช่วย ตอบโจทย์
https://789beauty.com/

เดนิมพลัส วันละเม็ด
เผาผลาญแทนออกกำลังกาย
❥ ใช้หลักการ เน้นการเบิร์น Burn และการบล็อค Block โดยทำให้ร่างกายสามารถทำการ Burn ได้ตลอดทั้งวัน โดยทำให้เกิด กระบวนการเมตาบอลิซึม Metabolism ได้ตลอดทั้งวัน ยับยั้งย่อยแป้ง + ดักจับไขมัน แล้วขับถ่ายออก

เดนิมพลัส
เคล็ดลับดูแลรูปร่าง