Posted on Leave a comment

ลดน้ำหนัก รับประทานคาร์โบไฮเดรตน้อยเสี่ยงมะเร็ง

ลดน้ำหนัก กินคาร์โบไฮเดรตน้อย

ลดน้ำหนักให้ถูกวิธี ห่างไกลโรคร้าย

ลดน้ำหนักรับประทานคาร์โบไฮเดรตน้อย หรือไม่รับประทานคาร์โบไฮเดรตเลย ทำให้แบคทีเรียที่ช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ลดลงถึง 4 เท่า

เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่รับประทานกับ คาร์โบไฮเดรต มากกว่า การเลิกรับประทานคาร์โบไฮเดรตไปเลย ไม่ใช่วิธีที่เหมาะสมในการลดน้ำหนักเพราะแม้น้ำหนักลดลงแต่กลับเสี่ยงเป็นมะเร็งมากขึ้น

วิธีที่ดีกว่า ควรเลือกคาร์โบไฮเดรตไฟเบอร์สูง อย่างข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีท

ปริมาณแคลอรี่ต่อวัน

คาร์โบไฮเดรต
ลดน้ำหนักอย่างถูกวิธี

เรื่องราวเพิ่มเติม ตัวช่วย ตอบโจทย์

❥เดนิมพลัส วันละเม็ด
เผาผลาญแทนออกกำลังกาย
❥ ใช้หลักการ เน้นการเบิร์น Burn และการบล็อค Block โดยทำให้ร่างกายสามารถทำการ Burn ได้ตลอดทั้งวัน โดยทำให้เกิด กระบวนการเมตาบอลิซึม Metabolism ได้ตลอดทั้งวัน ยับยั้งย่อยแป้ง + ดักจับไขมัน แล้วขับถ่ายออก

เดนิมพลัส

เคล็ดลับดูแลรูปร่าง

Posted on Leave a comment

กินป้องกันเหี่ยว

แสงแดดเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำร้ายผิวหนังนอกจากเสี่ยงเป็นมะเร็ง แล้วยัง…
ทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่นก่อนวัยอันควรอีกด้วยการรับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระฟลาโวนอยด์สูง..ช่วยลดอาการดังกล่าว

จากการทดสอบให้ผู้หญิงรับประทานสารฟลาโวนอยด์ วันละ 329 มิลลิกรัม(เท่ากับดื่มเครื่องดื่มช็อกโกแลตเข้มข้น3.5ออนซ์) เป็นเวลา 12 สัปดาห์

พบว่าช่วยป้องกันไม่ให้ผิวหนังมีรอยแดงจากการอยู่กลางแดดเป็นเวลานานได้ 25 เปอร์เซ็นต์ เพราะฟลาโวนอยด์ มีส่วนช่วยให้เลือดภายในเซลล์ผิวหนังไหลเวียนได้ดีขึ้น จึงป้องกันเซลล์ผิวหนังจากการถูกแสงแดดทำร้ายได้

อาหารที่มีโฟลวานอยด์สูง ได้แก่ช็อกโกแลต ชาดำ ชาเขียว กะหล่ำปลี แอปเปิ้ลแดง และบรอกโคลี เป็นต้น

เรื่องราวเพิ่มเติม ตัวช่วย ตอบโจทย์
https://789beauty.com/

เดนิมพลัส วันละเม็ด
เผาผลาญแทนออกกำลังกาย
❥ ใช้หลักการ เน้นการเบิร์น Burn และการบล็อค Block โดยทำให้ร่างกายสามารถทำการ Burn ได้ตลอดทั้งวัน โดยทำให้เกิด กระบวนการเมตาบอลิซึม Metabolism ได้ตลอดทั้งวัน ยับยั้งย่อยแป้ง + ดักจับไขมัน แล้วขับถ่ายออก

เดนิมพลัส

Posted on Leave a comment

อย่ามองข้ามมันเทศ

มันเทศอุดมไปด้วย วิตามินเอ วิตามินซีโฟเลต วิตามินอี ธาตุเหล็ก แคลเซี่ยม
นอกจากนี้ ยังมีไฟเบอร์สูงอีกด้วย

เมื่อเทียบกันแล้ว มันเทศมีสารอาหารต่างๆมากกว่าแครอท และมันฝรั่งเสียอีก และถ้าหากรับประทานมันเทศทั้งเปลือก จะช่วยให้ร่างกายได้รับ..เบต้าเคโรทีนเพิ่มขึ้น ถึง4 เท่า

ผลการวิจัยพบว่าการที่มันเทศ  มีสารอาหารสำคัญต่างๆสูง  ช่วยป้องกันโรคร้ายหลายโรค  เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง  รวมทั้งอัลไซเมอร์ด้วย

เรื่องราวเพิ่มเติม ตัวช่วย ตอบโจทย์
https://789beauty.com/

เดนิมพลัส วันละเม็ด
เผาผลาญแทนออกกำลังกาย
❥ ใช้หลักการ เน้นการเบิร์น Burn และการบล็อค Block โดยทำให้ร่างกายสามารถทำการ Burn ได้ตลอดทั้งวัน โดยทำให้เกิด กระบวนการเมตาบอลิซึม Metabolism ได้ตลอดทั้งวัน ยับยั้งย่อยแป้ง + ดักจับไขมัน แล้วขับถ่ายออก

เดนิมพลัส

 

Posted on Leave a comment

เคล็ดลับหน้าเด็กตลอดกาล

เคล็ดลับหน้าเด็ก

การดูแลรักษาผิวหน้า…ชะลอความหย่อนยาน เคล็ดลับหน้าเด็กตลอดกาล


ความหย่อนคล้อย หรือเหี่ยวย่นของผิวหน้า เป็นสิ่งที่สาวๆ ทุกคนประหวั่นพรั่นพรึงยิ่งกว่าความตายเสียอีก โดยเฉพาะ… หากเป็นความเหี่ยวย่นที่มาถึงก่อนเวลาอันควร ยิ่งน่าสะพรึงกลัวเหลือเกิน สำหรับสาวๆ ที่ต้องแต่งหน้าทุกวันเพื่อไปทำงาน บางคนอายุเพียงแค่ 30 ปีกว่าๆ ก็มีผิวที่หย่อนยานลงซะแล้ว…

มีสาเหตุหลายประการที่ทำให้เกิดปัญหาดังกล่าว หลักๆ คือการขาดความรู้เรื่องผิวพรรณ และวิธีการดูแลที่ถูกต้อง เช่นการใช้เครื่องสำอางที่ไม่ถูกกับสภาพผิว อาจมากเกินไป หรือน้อยเกินไป เป็นต้น

วิธีการดูแล
ควรนวดหน้าทุกคืนด้วยตนเอง เป็นการกระตุ้นให้เซลล์ตื่นตัว เพื่อสร้างเซลล์ใหม่และผลัดเซลล์เก่าออก ทั้งยังช่วยให้การไหลเวียนของโลหิตไปหล่อเลี้ยงผิวดีขึ้น กล้ามเนื้อจะกระชับ ทำให้การหย่อนยานลดลง ส่วนการกดจุดบนใบหน้าวันละครั้ง ก็สามารถช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อและเส้นประสาท ทำให้การไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น เราสามารถกดจุดได้ทุกที่และทุกเวลา

เครื่องสำอางบางชนิดที่มีสรรพคุณกระชับผิวที่หย่อนยานให้เต่งตึงขึ้นก็สามารถช่วยได้ แต่ต้องทำเป็นประจำ มีให้เลือกหลายชนิด และมีชื่อต่างกันไป เช่น Essence Lighting Cream จะลองดูก็ได้ บางคนใช้ได้ผล ส่วนคนที่ใช้บ้างไม่ใช้บ้างอาจไม่ได้ผล สำหรับผู้ทีมีอายุมาก เช่น คน อายุ 60 ปีขึ้นไป อาจได้ผลน้อย
สำหรับท่านที่มีงบน้อย แนะนำให้ใช้ของในครัวเรือน เช่น น้ำมันงา น้ำมันมะพร้าวชนิดหีบเย็นนวดหน้า หลังจากนวดแล้วให้พอกผิวด้วยสูตรผักรวมบด เพื่อกระตุ้นให้ผิวสดชื่นเต่งตึงขึ้น ทำความสะอาดแล้วหลังจากนั้นใช้โลชั่นแตงกวาชโลมให้ทั่วใบหน้า สมานผิวกระชับรูขุมขน

สูตรบำรุงผิวจากธรรมชาติ
สูตรผักบด
• ใช้กับทุกสภาพผิว ประกอบด้วย แตงกวา มะเขือเทศ แครอท อะโวคาโด บดแล้วผสมนมผงให้เข้ากัน พอกหน้าทิ้งไว้ 10-20 นาที แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด ผิวจะขาวเต่งตึงขึ้น
โลชั่นแตงกวา
• ปั่นแตงกวาให้ละเอียด ใช้ผ้าขาวบางกรองให้เหลือแต่น้ำ ผสมน้ำสะอาดเท่าตัว ใส่ภาชนะมีฝาปิด นำไปแช่เย็น นำมาเป็นโลชั่นกระชับรูขุมขน ลดความมันได้
• ส่วนเนื้อของแตงกวา นำมาผสมกับไข่ไก่ 1 ฟอง และน้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ คนให้เป็นเนื้อเดียวกัน ใช้พอกหน้าทิ้งไว้ 15 นาที แล้วล้างออก จะทำให้ผิวที่หยาบกร้านหลุดออกไป ผิวหน้าจะสดชื่นเปล่งปลั่ง (แตงกวาควรเลือกที่ปลอดภัยจากสารเคมี)

เคล็ดลับที่ช่วยให้ผิวเต่งตึงเปล่งปลั่ง คือ การนวดหน้าอย่างสม่ำเสมอที่ทำได้ทุกวัน บางคนเข้าใจผิดคิดว่าการนวดหน้าทำให้ผิวเหี่ยวย่น จริงๆ แล้ว การนวดหน้าทำให้การไหลเวียนของโลหิตที่ไปหล่อเลี้ยงผิวนั้นดีขึ้น และยังกระตุ้นให้เซลล์เก่าและรูขุมขนขับน้ำมันออกมาตามปกติ การนวดหน้าสามารถทำได้ด้วยตนเองนะคะ ถึงจะเป็นแม่บ้าน เป็นสาวก้นครัว แต่ก็ยังสวยได้จริงๆ ค่ะ

✦คลิกที่รูป

❥ไม่ง้อเข็ม…

✦บอกลา ริ้วรอย ชะลอความชรา
สเปรย์ทั่วใบหน้า รักนางเลย??

✦เป๊ะเว่อร์ สีผิวสม่ำเสมอ ริ้วตื้น หน้าเรียบเนียน รูขุมขนตื่น ปรับรูปหน้า เริ่ดๆ ??

Posted on Leave a comment

อึบอกสุขภาพ

อึบอกสุขภาพ

?? ? อุจจาระบอกสุขภาพ

? ✺อุจจาระเป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลย เพราะอุจจาระสามารถบอกความผิดปกติของร่างกายได้ ไม่ต้องเข้าโรงพยาบาลไปตรวจเลือด ก็สามารถรู้ได้ว่าสุขภาพของเราดีหรือไม่ ด้วยวิธีง่ายๆ เพียงแค่สังเกตสีและลักษณะของอุจจาระก่อนที่จะกดชักโครก

?✺การสังเกตสีอุจจาระ?

? ✺อุจจาระที่อันตราย อุจจาระมักมีสีดำ บ่งบอกว่าอาจมีเลือดออกในกระเพาะหรือลำไส้

? ✺อุจจาระควรปรับปรุง อุจจาระมักมีสีน้ำตาล บ่งบอกว่ากินเนื้อมากกว่าการกินผักและผลไม้

? ✺อุจจาระปลอดภัยไม่มีพิษสะสม อุจจาระมักมีสีเขียว บ่งบอกว่ากินผักผลไม้มากกว่าเนื้อสัตว์ และอุจจาระสีน้ำตาลอมเหลือง แสดงว่ากินเนื้อในอัตราที่สมดุลกับผักผลไม้

?✺การสังเกตลักษณะอุจจาระ??

?1. ✺อุจจาระแบบกล้วย มีสีเหลือง มีกลิ่นแบบพอรับได้ ไม่แข็งและไม่นิ่มจนเกินไป เมื่อตกลงน้ำจะลอยตัว อุจจาระแบบนี้เป็นอุจจาระที่มีสุขภาพดีมาก และอาหารที่รับประทานมีความสมดุลต่อร่างกาย ควรรักษาให้มีอุจจาระแบบนี้ตลอดไปจะดีต่อสุขภาพของคุณ

?2. ✺อุจจาระแบบผอมเรียว มีสีน้ำตาลแดงปนดำ เวลาปล่อยจะมีลักษณะขาดเป็นช่วงๆ รูปร่างผอมลีบ เหลวข้น และมีกลิ่น เหม็นเปรี้ยว เกิดจากคนที่กล้ามเนื้อท้องมีปัญหา อาจเกิดจากการขาดสารอาหาร หรือกำลังอยู่ในช่วงที่ลดน้ำหนักมากเกินไป อุจจาระแบบนี้ไม่ดีนัก ควรปรับปรุงด้วยการกินอาหารที่มีประโยชน์มากขึ้น

?3. ✺อุจจาระแบบดินโคลน มีสีน้ำตาลแดงเข้มค่อนไปทางดำ มีกลิ่นแรง ลักษณะคล้ายดินโคลน ถ่ายครั้งละมากๆ คล้ายคนท้องเสีย ควรพักผ่อนเยอะๆ เพราะเป็นสัญญาณของการอดนอน ควรกินอาหารที่มีไฟเบอร์เยอะๆ งดอาหารเผ็ด หรือชา กาแฟ ถ้าอุจจาระแบบนี้นานๆ ควรไปปรึกษาแพทย์ เพื่อตรวจสุขภาพ

?4. ✺อุจจาระแบบน้ำ มีโอกาสเป็นได้หลายสี ยกเว้นสีน้ำตาล ลักษณะเป็นน้ำมีกลิ่นเหม็นมาก สาเหตุมาจากเรื่องความเครียด พักผ่อนน้อย กินอาหารไม่ถูกสุขลักษณะ ดังนั้นควรพักผ่อนเยอะๆ ทำจิตใจให้สบาย งดอาหารที่มีไขมันและโปรตีนสูง ควรกินผักผลไม้เยอะๆ ถ้าอุจจาระแบบนี้นานๆ ควรไปปรึกษาแพทย์โดยด่วน

?5. ✺อุจจาระแบบแข็งปนน้ำ มีโอกาสเป็นได้หลายสี อาจเหม็นบ้างไม่เหม็นบ้าง อุจจาระแบบนี้บ่งบอกได้ว่าลำไส้ขาดความแข็งแรง ควรไปปรึกษาแพทย์ เพื่อตรวจสุขภาพ

?6. ✺อุจจาระแบบแข็ง มีสีน้ำตาล น้ำตาลแดง หรือดำ มีลักษณะคล้ายก้อนหินเม็ดเล็กๆ หรือเหมือนขี้กระต่าย มีกลิ่นเหม็นมาก และทุกเม็ดแข็งมาก นั่นเพราะในลำไส้ขาดน้ำ จึงส่งผลทำให้เกิด โรคท้องผูก ดังนั้นจึงควรดื่มน้ำเยอะๆ และทานอาหารที่มีไฟเบอร์ เพื่อให้ลำไส้ทำงานดีขึ้น

?7. ✺อุจจาระแบบดีที่สุด มีสีเหลืองทอง กลิ่นไม่แรงมาก ลักษณะขดเป็นวง (เหมือนในการ์ตูน) เจ้าของอุจจาระแบบนี้ ต้องบอกว่ามีสุขภาพที่ดีเยี่ยม และยังมีสุขภาพจิตที่ดีอีกด้วย

➰ถึงอุจจาระจะเป็นของเสียที่ร่างกายของเราขับออกมา แต่อุจจาระก็ยังพอมีประโยชน์ สามารถช่วยเป็นคุณหมอประจำตัวประเมินโรคได้ด้วย เมื่อฟังบทความนี้แล้วก่อนกดชักโครก

✺ลองสังเกตอุจจาระของคุณดู จะได้ทราบว่าสุขภาพของคุณตอนนี้เป็นอย่างไร จะได้ป้องกันแก้ไขได้ตรงเวลาก่อนเกิดโรค

เรื่องราวเพิ่มเติม ตัวช่วย ตอบโจทย์
https://789beauty.com/

เดนิมพลัส วันละเม็ด
เผาผลาญแทนออกกำลังกาย
❥ ใช้หลักการ เน้นการเบิร์น Burn และการบล็อค Block โดยทำให้ร่างกายสามารถทำการ Burn ได้ตลอดทั้งวัน โดยทำให้เกิด กระบวนการเมตาบอลิซึม Metabolism ได้ตลอดทั้งวัน ยับยั้งย่อยแป้ง + ดักจับไขมัน แล้วขับถ่ายออก

 

เดนิมพลัส

Posted on Leave a comment

20 เมนูอาหาร หน้าตาดี แคลอรี่ต่ำ

เมนูอาหารแคลอรี่ต่ำ

เพื่อคุณภาพและสิ่งที่ดีที่สุด

❥เมนูอาหารแคลอรี่ต่ำ เพื่อสุขภาพที่ดี มีมาให้พี่ๆเพื่อนๆ เลือกรับประทานกันหลากหลาย มากมาย กันไปเร้ยย

789beauty ส่งต่อความปรารถนาดี
ขอบคุณภาพสวย.. จาก ครัวของแม่

 

Posted on Leave a comment

ยิ่งอดมื้อเย็น ยิ่งส่งผลร้าย

งดมื้อเย็น

หลายคนที่อยากลดน้ำหนัก อาจจะเคยได้ยินถึงวิธีลดน้ำหนักด้วยการอดหรืองดอาหารมื้อเย็น ซึ่งโดยความเชื่อนี้ก็คือ หากเราไม่กินอาหารเลยในมื้อเย็นจะทำให้ผอมลงเร็วกว่า ความเชื่อนี้ถูกต้องจริงเหรอ และผลจากการอดอาหารมื้อเย็นจะทำให้ลดน้ำหนักได้ผลจริงๆ หรือเปล่าวันนี้เรามาทำความเข้าใจกันค่ะ

ทำไมต้องอดอาหารถึงจะทำให้เราผอมได้?
โดยพื้นฐานวิธีลดน้ำหนักที่ถูกต้องนั้น เราต้องกินอาหารให้ได้สารอาหารครบถ้วนตามที่ร่างกายต้องการ ในขณะเดียวกันพลังงานที่ได้จากอาหารในแต่ละวันนั้นหากเราได้รับมากกว่าพลังงานที่เราใช้ไปในแต่ละวัน พลังงานที่เหลือก็จะสะสมกลายเป็นไขมัน แต่หากวันไหนที่เราใช้พลังงานมากกว่าพลังงานที่ได้รับจากอาหาร ร่างกายก็จะนำเอาไขมันสะสมมาใช้งานเพื่อเป็นพลังงานทดแทน
ด้วยพื้นฐานเหล่านี้ทำให้หลายคนคิด (เอาเอง) ว่าการที่ร่างกายไม่รับพลังงานอะไรเลยจากอาหารในมื้อเย็น น่าจะทำให้ร่างกายได้รับพลังงานรวมในแต่ละวันน้อยลงอีก นอกจากนั้นก็คิดเองอีกว่าไม่กี่ชั่วโมงก็เข้านอนแล้วไม่ได้ทำกิจกรรมอะไร ไม่ต้องกินอะไรก็ได้ ทนหิวนิดหน่อยกินน้ำเปล่าอย่างเดียวก็น่าจะผอมได้เร็วกว่า

แต่หลายคนคงลืมไปว่า หลักการคิดแบบนี้อาจจะนำไปใช้ได้กับบุคคลบางกลุ่ม เช่น คนที่ไม่ต้องมีกิจกรรมมากมายในช่วงเย็นถึงดึกและนอนหลับแต่หัวค่ำ นอกจากนั้นเขาจะต้องได้รับสารอาหารที่เพียงพอตั้งแต่มื้อเช้าและมื้ออาหารกลางวันแล้ว

ในขณะที่คนในเมือง นักเรียน คนทำงาน ในยุคปัจจุบันที่กว่าจะเลิกงาน เลิกเรียน กว่าจะห้อยโหนฝ่าการจราจรเดินทางถึงบ้านก็เลยเวลามื้ออาหารเย็นแล้ว ทำให้มื้อเย็นกลายเป็นมื้อดึก ประกอบกับกิจกรรมในช่วงเดินทางกลับบ้านหรือช่วงเย็นนั้นต้องใช้พลังงานไปไม่ใช่น้อย เมื่อร่างกายใช้พลังงานมากร่างกายจึงต้องการพลังงานและสารอาหารเข้ามาทดแทนและซ่อมแซม แต่การอดอาหารคิดแต่ลดจำนวนพลังงานโดยไม่สนใจสารอาหารที่ร่างกายต้องการในการซ่อมแซมร่างกายนั้นกลับเป็นผลร้ายในอนาคต

นอกจากนั้นพฤติกรรมการสังสรรค์หลังเลิกงาน ฉลองวันเกิด ฉลองงานแต่งงานของเพื่อน ฯลฯ รวมถึงพฤติกรรมการกินอาหานแบบบุฟเฟ่ห์ที่กลายเป็นค่านิยมไปแล้วสำหรับวัยรุ่น ซึ่งโดยมากคนไทยมักจะสังสรรค์กันตอนมื้อเย็น ทำให้เราบริโภคอาหารในปริมาณที่มากและได้พลังงานเกินความจำเป็น

ด้วยเหตุนี้เมื่อใครที่อยากลดน้ำหนัก สิ่งแรกที่พวกเขาคิด (เอาเอง) ก็คือ งั้นเราอดอาหารมื้อเย็นดีกว่าเพราะจะได้ไม่ต้องกินเยอะแบบแต่ก่อน

การอดอาหารทำให้เราลดน้ำหนักได้จริงเหรอ
หากคุณใช้การอดมื้ออาหารใดมื้อหนึ่งแทนที่จะใช้การลดปริมาณการกินอาหารบางชนิดละก็ คุณอาจจะดีใจที่เห็นว่าตัวเลขน้ำหนักตัวบนตราชั่งลดลงในช่วงแรก แต่ในระยะยาวคุณจะพบว่าน้ำหนักตัวของคุณ รวมถึงสัดส่วนต่างๆ จะดีดกลับเพิ่มขึ้นกว่าเดิมมาก เพราะการอดอาหารเพื่อลดน้ำหนักนั้นจะทำให้กล้ามเนื้อของคุณถูกทำลายไปด้วย

เนื่องจากว่าร่างกายทำงานตลอดเวลา แม้คุณจะนั่ง เดิน นอน ฯลฯ แม้กระทั่งการใช้ความคิดร่างกายก็ต้องใช้พลังงานและเซลแต่ละเซลก็ทำงานและเสื่อมลง เซลล์เหล่านี้ต้องการพลังงานและสารอาหารเพื่อให้มันกลับมาทำงานได้ดีเหมือนเดิม

แต่เมื่อเราอดอาหารเพราะอยากลดจำนวนพลังงานที่ร่างกายได้รับในแต่ละวัน แต่ลืมคิดไปว่าร่างกายยังต้องการสารอาหารด้วย เมื่อร่างกายขาดสารอาหารร่างกายจะไปดึงเอากล้ามเนื้อ (ซึ่งเป็นโปรตีน) มาใช้งานทดแทนก่อน เนื่องจากเซลต้องใช้โปรตีนในการซ่อมแซมตัวเอง

ดังนั้นเมื่อเราอดอาหารมื้อใดมื้อหนึ่งเป็นเวลานานๆ กล้ามเนื้อของคุณจะเริ่มลดลง โดยถูกแทนที่ด้วยไขมันแทน นี่คือสิ่งที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อน!

แล้วต้องอดอาหารยังไงถึงจะลดน้ำหนักได้

เราไม่สนับสนุนให้คุณอดอาหารมื้อใดเลยสักมื้อเดียว!!

โปรดจำไว้ว่า ร่างกายคุณเสื่อมและถูกใช้ตลอดเวลาแม้กระทั่งการนั่งหายใจทิ้งไปวันๆ ก็ตาม!!!

ดังนั้นคุณไม่จำเป็นต้องอดอาหารในมื้อเย็นหรือมื้อใดเลย แต่การลดจำนวนพลังงานที่ได้รับจากอาหารต่างหากที่คุณแค่ลด ขอให้คำนึงถึงสารอาหารมากกว่า ขอให้คุณได้รับสารอาหารในทุกๆ มื้อ โดยผ่านอาหารที่ให้พลังงานต่ำ แค่นี้คุณก็สามารถลดน้ำหนักได้แบบง่ายๆ โดยไม่มีผลกระทบอะไรกับร่างกายมากแล้วละค่ะ

ข้อแนะนำอีกอย่างคือ ขอให้คุณเลือกทานบางอย่างและลดอาหารบางอย่างลงในมื้อเย็นหรือ 4-6 ชั่วโมงก่อนจะนอน

อาหารที่คุณควรหลีกหนีให้ไกลจากมื้อเย็นหรือก่อนนอนได้แก่ เมนูอาหารที่เน้นแป้ง น้ำตาล ชีส เนย

อาหารที่เราแนะนำให้คุณกินได้ในช่วงมื้อเย็นได้แก่ โปรตีน (ปลา, ถั่ว, ธัญพืชอื่นๆ), ผักและผลไม้

แต่ก็ไม่ใช่ว่ามื้อเย็นคุณจัดข้าวเหนียวทุเรียน, ข้าวเหนียวมะม่วง อันนี้ก็ตัวใครตัวมันนะคะ?

เมนูยอดนิยมที่มักจะแนะนำก็คือ การกินอาหารที่ให้โปรตีนที่มีกากใย ได้เคี้ยวมากหน่อย กินแล้วรู้สึกอิ่มท้อง

โปรดอย่าลืมว่าการได้เคี้ยวอาหารพร้อมกับการลิ้มรสต่างๆ ก็เป็นความสุขพื้นฐานของการกินของมนุษย์ทั่วๆ ไปเช่นกัน ดังนั้นจึงขอแนะนำเมนูเช่น ถั่วเขียว ถั่วแดงต้ม (ใส่น้ำตาลทรายแดงได้นิดหน่อย) หรือจะทานควบคู่กับผักสลัด หรือผลไม้ที่ให้กากใยมาก เช่น ส้ม กล้วย ส้มโอ แอ๊ปเปิ้ล หรือหากคุณต้องการทานเนื้อสัตว์ แนะนำปลานึ่งทานคู่กับผักลวกจิ้มน้ำพริกก็ได้เช่นกัน

แล้วถ้าอดใจกินอาหารจานโปรดไม่ได้… จะทำยังไงดี
การอดอาหารมื้อใดมื้อหนึ่งทันทีเป็นเรื่องยาก การเปลี่ยนอาหารที่ทานในแต่ละมื้อก็ยากเช่นกัน และแน่นอนว่าหากคุณต้องหักดิบเหมือนเลิกยาที่ถ้ำกระบอกละก็ คนที่มีกำลังใจที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะทำได้ ส่วนคนที่ไม่ไหวก็ต้องล้มเลิกและกลับไปอ้วนเหมือนเดิม
ดังนั้น มีเทคนิคง่ายๆ สำหรับผู้ที่อยากเริ่มต้นลดน้ำหนักดังนี้

 ถ้าคุณเป็นมือใหม่ ใจไม่แข็งพอ ให้ใช้การขยับมื้ออาหารเย็นให้เร็วขึ้น (ทานให้เสร็จก่อน 6 โมงเย็น หรือช้าสุดไม่ควรเกิน 6 โมงครึ่ง) ช่วงนี้อาจจะมีปัญหาทางสังคมบ้าง เพราะเพื่อนเราอาจจะชวนไปกินกันดึกกว่านั้น ก็จงทำใจแข็งซะ แต่ถ้าปลีกตัวออกจากสังคมไม่ได้ งั้นต้องใช้เทคนิคข้อต่อไปนะคะ
 เปลี่ยนเมนูและปริมาณอาหารที่กินในมื้อเย็น จากเดิมที่เคยฟาดเรียบในมื้อเย็น ก็ขอให้ลดลงเหลือเพียงจานเดียวไม่มีการเติมหรือเบิ้ลครั้งที่สอง การเปลี่ยนเมนูจากเดิมที่เน้นของทอด ของมัน ชีส เนย กะทิ ต่างๆ ก็เปลี่ยนเป็นปลา, อาหารจืดๆ โดยเปลี่ยนทีละน้อยเพื่อให้ร่างกายได้ปรับตัว ที่สำคัญคืออย่าเสียดายอาหารนะคะ อย่าห่วงงกกินกลัวไม่คุ้มเด็ดขาดหากคุณกำลังต้องการลดน้ำหนัก เพราะทุกคำที่คุณกินนั้นหมายถึงพลังงานที่ร่างกายต้องรับเข้าไป ซึ่งยิ่งกินมื้อดึกมากแค่ไหน มันก็เป็นภาระต่อร่างกายของคุณในวันต่อไปนั้นเอง

สรุปแล้วถ้าอดอาหารมื้อเย็น จะทำให้ผอมได้ไหม?
ถ้าคุณอด ไม่ยอมทานอะไรเลย ใช้น้ำเปล่าลูบท้องแล้วหวังว่าจะผอมละก็ ยินดีด้วยค่ะ เพราะคุณลดน้ำหนักได้จริงในช่วงแรก แต่ในระยะกลางและระยะยาวคุณจะกลับมามีน้ำหนักตัวและสัดส่วนที่อวบอ้วนกว่าเดิมแน่นอน
กล้าท้าคุณเลย!
เพราะความอยากอาหารนั้น หากคุณกดมันไปนานๆ สุดท้ายมันก็ต้องระเบิด (ที่เรียกว่า ตบะแตก) สักวันอยู่ดี ดีไม่ดีในมื้อถัดไปคุณก็กินแบบลืมตัวแล้วละค่ะ

นอกจากนั้นยิ่งอายุคุณมากเท่าไรการอดอาหารมื้อเย็นยิ่งส่งผลร้ายกับตัวคุณเองในระยะยาวมากขึ้น เพราะร่างกายคุณต้องซ่อมแซมและต้องการสารอาหารมากกว่าตอนสมัยวัยรุ่น คุณจะรู้สึกว่าคุณเพลีย และหน้าเหี่ยวๆ ร่างกายจะดูย้วยๆ ไม่สดชื่นเหมือนสมัยตอนอายุ 17-18 อีกต่อไป!

ดังนั้นขอสรุปเลยว่า หากคุณต้องการลดน้ำหนักด้วยวิธีอดอาหาร ไม่ว่าจะมื้อใดก็ตาม มันอาจจะช่วยให้คุณรู้สึกผอมได้ในช่วงแรกเท่านั้น แต่ในอีก 3 เดือน หรือ 1 ปีข้างหน้ามันไม่ดีต่อร่างกายคุณเลยสักนิดเดียว

เราขอแนะนำว่า ให้ใช้การปรับเวลาการกิน, เปลี่ยนเมนูอาหาร และปริมาณที่กินจะดีกว่า นอกจากจะได้ผลในระยะยาวแล้ว คุณยังมีสุขภาพใจ อารมณ์ดีอีกด้วย ไม่ต้องหงุดหงิด เพราะคุณยังคงได้กิน ได้เคี้ยวเหมือนเดิม เพียงแต่เลือกกินสักหน่อยแค่นี้ก็ลดความอ้วนได้แล้วค่ะ

เรื่องราวเพิ่มเติม ตัวช่วย ตอบโจทย์
https://789beauty.com/

เดนิมพลัส วันละเม็ด
เผาผลาญแทนออกกำลังกาย
❥ ใช้หลักการ เน้นการเบิร์น Burn และการบล็อค Block โดยทำให้ร่างกายสามารถทำการ Burn ได้ตลอดทั้งวัน โดยทำให้เกิด กระบวนการเมตาบอลิซึม Metabolism ได้ตลอดทั้งวัน ยับยั้งย่อยแป้ง + ดักจับไขมัน แล้วขับถ่ายออก

เดนิมพลัส

Posted on Leave a comment

❝ ยิ่งนอนดึก ยิ่งอ้วน ❞ เรื่องจริงที่หลายคนยังไม่เคยรู้ !?

ิ่งนอนดึก ยิ่งอ้วน

ปัญหาเรื่องน้ำหนักตัวเกิน หรืออ้วนนั้นยิ่งอายุมากก็ยิ่งอ้วนขึ้นเป็นความจริงหรือเป็นไปได้ทั้งสองประการ
คนเราเมื่ออายุมากขึ้นอวัยวะต่างๆ ในร่างกายจะเริ่มเสื่อมถอยระบบ การเผาผผลาญ จะน้อยลง แต่จะขึ้นอยู่กับอาหารการกิน ของแต่ละคนมากกว่า

หากไม่อยากน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นมาก
ควรควบคุมอาหาร ประเภท แป้ง ไขมันและน้ำตาล ให้พอดี

การนอนน้อยก็มีผลทำให้ อ้วนขึ้น
โดยทางด้านแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนหลับจากคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลว่า การนอนดึกหรือการนอนไม่พอ จะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกับร่างกายหลายด้าน ส่วนใหญ่จะอ้วนขึ้นเพราะ การนอนน้อยส่งผลให้ฮอร์โมนเครียดที่มีชื่อว่า ❝ คอร์ติซอล ❞ หลั่งมากขึ้นจนกระตุ้นให้คุณรู้สึกอยากอาหารหวานๆ หรือน้ำตาลมากกว่าเดิม

นอกจากฮอร์โมนเครียดแล้วฮอร์โมนหิวหรือ ❝ เกรลิน ❞ ก็จะหลั่งเพิ่มขึ้นด้วยส่งผลให้หิวเป็นสองเท่า

และทำให้ ฮอร์โมนความอิ่ม หรือ ❝ เลปติน ❞ จะหลั่ง ลดลง แม้ว่าจะรับประทานแล้วแต่ก็รู้สึกไม่ค่อยอิ่ม ทำให้ต้องหาอะไรรับประทานอยู่ตลอดจนกลายเป็นกินมากเกินไป

นอกจากนอนดึก ทำให้ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงจนทำให้อ้วนขึ้นแล้วในบางคนอาจหิวจนนอนไม่หลับ ทำอย่างไรดีถ้าหันไปหาอาหารมาทานก็จะอ้วนขึ้นอีก หรือทานมาก บางท่านนอนแน่นท้องไม่สามารถหลับได้เลย
มีข้อแนะนำให้คุณเลือกอาหารที่ทานแล้วหลับสบาย และไม่หนักท้องจนเกินไปคุณควรทานอาหารก่อนเวลาเข้านอนอย่างน้อย 4 ชั่วโมง จะช่วยให้หลับสบายขึ้นและยังป้องกันน้ำหนักส่วนเกินป้องกันโรคกดไหลย้อน

อาหารเบาๆ ที่ควรเลือกทาน เช่นโยเกิร์ตไขมันต่ำ นมพร่องมันเนย ผลไม้ ประเภท แอปเปิ้ล หรือผลไม้รสไม่หวานหรือของว่าง ประเภทหัวไม่เกิน 15 เม็ด ก็จะช่วยบรรเทาอาการหิวได้ และไม่ทำให้น้ำหนักตัวขึ้นมาก

นอกจากนี้ยังมีอาหารที่ช่วยให้หลับสบายด้วยแนะนำให้ทานกล้วย นม
นมถั่วเหลือง ถั่วลิสง เมล็ดงา ปลา และอาหารที่มีโปรตีนสูงอย่างใดอย่างหนึ่งเพราะอาหารเหล่านี้มี
❝ สารทริปโตแฟน ❞ ซึ่งเป็นกรดอะมิโนจำเป็นธรรมชาติ ทำหน้าที่เป็นวัตถุดิบตั้งต้นเพื่อให้สมองสร้างฮอร์โมน
❝ เมลาโธนิน ❞ ที่ช่วยให้เราหลับสบาย

นอนน้อยทำให้อ้วนในวัยผู้ใหญ่แล้ว น้องน้องเด็กวัยรุ่นถ้านอนดึกก็จะไม่ค่อยสูง ดังนั้นควรเข้านอนก่อนเวลา 23.00 น. และหากอยากหลับให้สบายก่อนนอน ไม่ควรทำให้ร่างกายตื่นตัวเช่นนอนเล่นมือถือ หรือเล่นคอมพิวเตอร์ หรือดูทีวีช่วง 30- 60 นาที ก่อนนอนแสงสว่างจากเครื่องไฟฟ้าเหล่านี้ อาจส่งผลให้นอนไม่หลับ การปรับสภาพแวดล้อม ในห้องนอนก็สำคัญควรปิดไฟให้มืดสนิท เงียบ อุณหภูมิพอเหมาะ และจะให้ดีมากขึ้น ควรสวดมนต์ และนั่งสมาธิก่อนนอน จะช่วยให้จิตใจสงบ หลับได้สบายขึ้นและตื่นมาในเวลาใกล้เคียงกันทุกวัน จะช่วยให้ร่างกายของคุณ สดชื่น ร่างกายมีฮอร์โมนสมดุล หน้าตาสดใส

เพราะฉะนั้นแล้ว หากคุณกำลังลดน้ำหนักอย่างจริงจัง นอกจากการควบคุมการทานอาหารให้ถูกต้อง และออกกำลังกายอย่างเพียงพอแล้ว การนอนหลับพักผ่อนโดยรีบเข้านอนตั้งแต่หัวค่ำก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะมันส่งผลโดยตรงต่อน้ำหนักตัวของคุณได้อย่างแท้จริง แถมยังช่วยลดความเสี่ยงโรคอ้วน ทำให้โรคอื่นๆ ก็ไม่ถามด้วยเช่นกัน ที่สำคัญยังทำให้สาวๆ มีหุ่นดีสมใจอีกด้วยค่ะ

Posted on Leave a comment

ปริมาณแคลอรี่ในอาหารแต่ละชนิด

แคลอรี่

การบริโภคอาหาร ในแต่ละมื้อ เราเลือกรับประทาน อาหารที่เราชอบ ที่มีรสชาติอร่อย หอม หวาน แต่เราก็ลืมคำนวณปริมาณแคลอรี่ ที่เรากินเข้าไปในร่างกาย

✦ สำหรับร่างกายคนเรานั้น ต้องการปริมาณแคลอรี่ประมาณ 1,500 – 2,000 แคลอรี่เท่านั้น

✦ ชายต้องการแคลอรี่ ประมาณ 2,000 แคลอรี่
✦ หญิงต้องการแคลอรี่ ประมาณ 1,500 แคลอรี่

การที่เราเลือกรับประทาน แต่อาหารที่เราชอบ มักจะทำให้เราได้รับแคลอรี่
ที่มากเกินกว่าที่ร่างกายต้องการ
จึงทำให้เกิดการสะสมไขมัน แป้งตามร่างกาย หรือที่เราเรียกว่า ❝ส่วนเกินในร่างกาย ❞ เช่นพุง ต้นแขน ต้นขา ก้น นั้นเอง

เห็นไหมละคะ ว่าการเลือกรับประทานทานนั้น สำคัญต่อการลดน้ำหนักของเราจริงๆ ฉะนั้นเราลองเลือกทางอาหารเพื่อกำหนดปริมาณแคลอรี่ ที่จะเข้าสู่ร่างกายของเรากันนะคะ

วันนี้เรามีการคำนวณปริมาณแคลอรี่ในอาหาร ผัก ผลไม้แต่ละชนิดไว้ให้สำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักได้เลือกทาน…. อยากสวย อยากผอม อยากหุ่นดี อยากดูดี อยากเป็นคนใหม่ อย่าลืมกำหนดปริมาณแคลอรี่ในอาหารให้ตัวเองนะค่ะ

ปริมาณแคลอรี่ในอาหารเป็นกิโลแคลอรี่ ต่ออาหาร 100 กรัม

แป้ง – น้ำตาล

ขนมปัง 328 แคลอรี่
เส้นก๋วยเตี๋ยว 88 แคลอรี่
บะหมี่สำเร็จรูป 382 แคลอรี่
วุ้นเส้น 72 แคลอรี่
ข้าวเจ้าสุก 140 แคลอรี่
ข้าวเหนียวสุก 230 แคลอรี่
มันแกว 35 แคลอรี่
มันเทศ 126 แคลอรี่
เผือก 124 แคลอรี่
น้ำตาลทราย 385 แคลอรี่
น้ำผึ้ง 297 แคลอรี่
แยมสตรอเบอร์รี่ 264 แคลอรี่
แยมผิวส้ม 257 แคลอรี่
แยมสับปะรด 198 แคลอรี่

ไขมัน

น้ำมันงา 881 แคลอรี่
น้ำมันพืช – ถั่วเหลือง 884 แคลอรี่
น้ำมันหมู 902 แคลอรี่
เนย 729 แคลอรี่
มาการีน 723 แคลอรี่
น้ำสลัดมายองเนส 718 แคลอรี่
มัสตาร์ค 541 แคลอรี่
ครีมเทียม 600 แคลอรี่

เนื้อสัตว์

เนื้อปูม้า,ปูทะเล(ต้ม) 87 แคลอรี่
หอยเชลล์ 106 แคลอรี่
หอยนางรม 71 แคลอรี่
หอยแครง 68 แคลอรี่
หอยลาย,แมลงภู่ 59 แคลอรี่
เนื้อวัวไม่ติดมัน(ย่าง) 190 แคลอรี่
เนื้อวัวไม่ติดมัน(ต้ม) 187 แคลอรี่
เนื้อวัวไม่ติดมัน(ทอด) 250 แคลอรี่
เนื้อไก่ 302 แคลอรี่
เป็ด 183 แคลอรี่
หมูไม่ติดมัน 376 แคลอรี่
หมูแผ่น 615 แคลอรี่
หมู(ไส้กรอก) 590 แคลอรี่
แฮม 389 แคลอรี่
เบคอน 451 แคลอรี่
กุ้ง(น้ำจืด,ทะเล) 87 แคลอรี่
ลูกชิ้นเนื้อวัว 84 แคลอรี่
ลูกชิ้นปลา 56 แคลอรี่
ปลากระบอกทอด 538 แคลอรี่
ปลาซาตีน(กระป๋อง) 126 แคลอรี่
ปลาทูน่า 151 แคลอรี่
ปลาหมึก 115 แคลอรี่
ปลาหมึก(แห้ง) 328 แคลอรี่
ปลาอินทรีย์ 103 แคลอรี่
หมูหยอง 353 แคลอรี่
กุนเชียง 355 แคลอรี่
แคปหมู 619 แคลอรี่
แหนม 185 แคลอรี่
ไข่ไก่ 160 แคลอรี่
ไข่เป็ด 186 แคลอรี่

ผัก

มะเขือเทศ 22 แคลอรี่
แครอท 37 แคลอรี่
ยอดกระถิ่น 62 แคลอรี่
ใบขี้เหล็ก 139 แคลอรี่
ชะอม 57 แคลอรี่
คื่นช่าย 13 แคลอรี่
ดอกโสน 40 แคลอรี่
แตงกวา 12 แคลอรี่
ตำลึง 35 แคลอรี่
ต้นหอม 30 แคลอรี่
ถั่วงอก 36 แคลอรี่
ผักกวางตุ้ง 8 แคลอรี่
ผักกระเฉด 29 แคลอรี่
ใบตั้งโอ๋ 17 แคลอรี่
บร็อคโคลี่ 2 แคลอรี่

ผลไม้

กล้วยไข่ 145 แคลอรี่
กล้วยหอม 131 แคลอรี่
ขนุน 122 แคลอรี่
ทุเรียน(หมอนทอง-ชะนี) 156 แคลอรี่
แคนตาลูป 30 แคลอรี่
เงาะ 62 แคลอรี่
ชมพู่(มะเหมี่ยว,สาแหรก) 30 แคลอรี่
เชอร์รี่ 31 แคลอรี่
แตงไทย 16 แคลอรี่
น้อยหน่า 78 แคลอรี่
ฝรั่ง 51 แคลอรี่
พุทรา 82 แคลอรี่
มะขามหวาน 314 แคลอรี่
มะขามเทศ 78 แคลอรี่
มะขามป้อม 58 แคลอรี่
มะปรางสุก 60 แคลอรี่
มะไฟ 66 แคลอรี่
มะม่วงดิบ 86 แคลอรี่
มะม่วงสุก 114 แคลอรี่
มะยม 28 แคลอรี่
มะละกอสุก 45 แคลอรี่
มังคุด 57 แคลอรี่
ละมุด 94 แคลอรี่
ลางสาด 55 แคลอรี่
ลำไย 71 แคลอรี่
ลิ้นจี่ 65 แคลอรี่
กระท้อน 57 แคลอรี่
สับปะรด 47 แคลอรี่
ส้มเขียวหวาน 44 แคลอรี่
ส้มโอ 39 แคลอรี่
สตรอเบอร์รี่ 34 แคลอรี่
แอปเปิ้ล 58 แคลอรี่
องุ่น 60 แคลอรี่
อ้อยควั่น 67 แคลอรี่
ระกำ 51 แคลอรี่
ทับทิม 72 แคลอรี่
เนื้อมะพร้าวอ่อน 55 แคลอรี่

⁉️ อย่าลืมกำหนดปริมาณแคลอรี่ในอาหารต่อวัน ให้ตัวเองนะคะ^^

Posted on Leave a comment

ทำไมอ้วนลงพุง จึงลดไม่ได้ด้วยการอดอาหาร และออกกำลังกาย

หลายๆคนที่ลงพุง คงเคยตั้งคำถามนี้กับตัวเอง และหมดกำลังใจกับการลดน้ำหนัก เพราะไม่ว่าจะอดอาหารอย่างไร หรือออกกำลังกายวันละหลายชั่วโมง สัปดาห์ละหลายวัน ก็ยังไม่สามารถเอาห่วงยางรอบเอวออกไปได้ ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ..เรามาดูคำตอบของเรื่องนี้กันค่ะ

อ้วนลงพุง

ร่างกายก็เหมือนกับโรงงาน
มีฮอร์โมนเป็นตัวควบคุมการทำงานของเครื่องจักรให้ทำงานปกติ
กลไกการทำงานภายในร่างกายคนเรา ถ้าจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพ ก็คงคล้ายกับโรงงาน เราต้องการพลังงาน ก็คือการรับประทานอาหาร มีการใช้พลังงาน มีการเผาผลาญอาหารเป็นพลังงาน และใช้หมดไป

เครื่องจักรต้องมีการควบคุมให้ทำงานได้ตามปกติ ซึ่งก็เปรียบเสมือนกับฮอร์โมน ที่คอยควบคุมการทำงานของกลไกต่างๆของร่างกายให้ทำงานได้เป็นปกติ

ร่างกายที่ทำงานปกติ ก็จะมีการใช้พลังงาน เผาผลาญอาหารเป็นพลังงานตลอดเวลา ก็จะไม่เกิดการสะสมของไขมัน ก็คือ ❝ ไม่อ้วน ❞

แล้วเกิดอะไรกับคนอ้วน ทำไมร่างกายไม่นำพลังงานไปใช้

คนที่อ้วนลงพุง เกิดจากร่างกายไม่ยอมเผาผลาญ หรือเรียกอีกอย่างว่า
” metabolic syndrome “

ซึ่งจำเป็นต้องตรวจเช็คดูว่า เป็นเพราะอะไร ซึ่งส่วนใหญ่ พบว่าเกิดจากความ*ผิดปกติของฮอร์โมน ซึ่งมีสาเหตุเริ่มต้นมาจากการสะสมของท๊อกซินในเซลล์ไขมัน ( fat cell ) พอสะสมนานๆ อินซูลิน ซึ่งเป็น ฮอร์โมนที่สร้างจากตับอ่อน ทำหน้าที่นำน้ำตาลจากเลือดเข้าไปในเซลล์ของร่างกายเพื่อใช้เป็นพลังงานเริ่มทำงานได้ไม่ดี ไม่สามารถนำเอาน้ำตาลไปใช้เป็นพลังงานได้ตามปกติ น้ำตาลก็เก็บเป็นไขมัน ร่างกายก็ต้องใช้อินซูลินเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในการนำน้ำตาลไปใช้เป็นพลังงาน จนเกิดภาวะที่อินซูลินดื้อ ไม่ทำงาน พอถึงตรงนั้นก็*ไม่เผาผลาญน้ำตาลแล้ว *เก็บเป็นไขมันอย่างเดียว

✿ ถ้าร่างกายขาดพลังงาน มันก็จะดึงเอากล้ามเนื้อไปใช้แทน เพราะมันดึงไขมันออกมาไม่ได้ จึงเป็นที่มาของความเหี่ยว ผิวหย่อนคล้อย

จะเห็นได้ว่าขบวนการนำพลังงานไปใช้ในร่างกายมีความสำคัญมาก มีผลต่อสุขภาพ และความเป็นหนุ่มเป็นสาว ถ้าระบบเผาผลาญเราดี ขบวนการใช้พลังงานในร่างกายเราก็จะดี ถ้าร่างกายเราเริ่มเสื่อม เริ่มเฉื่อย ก็จะไม่ใช้พลังงาน แต่เก็บเป็นไขมัน อย่างเดียว

จะพบว่า ในคนส่วนใหญ่เมื่ออายุยังน้อยจะไม่มีปัญหาเรื่องอ้วนลงพุง แต่พออายุเริ่มใกล้ 50 รอบเอวเริ่มหาย เริ่มมีห่วงยางรอบเอว ทำยังไงก็ไม่หาย

ทั้งนี้เพราะเซลล์ในร่างกายเริ่มเสื่อม ฮอร์โมนเริ่มไม่ทำงาน เหมือนเมื่อตอนอายุยังน้อย กลไกการทำงานต่างๆของร่างกายจึงเริ่มผิดปกติ เสียสมดุล และเป็นต้นเหตุของโรคต่างๆตามมา ไม่เพียงเฉพาะโรคอ้วนเท่านั้น จึงเป็นที่มาว่าถ้ามีอาการอ้วนที่รอบเอว จะมีภาวะเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน และโรคหัวใจมากกว่าอ้วนในส่วนอื่นๆ ทั้งนี้ก็เพราะเกิดจากความผิดปกติของฮอร์โมนที่นำน้ำตาลไปใช้เป็นพลังงานนั่นเอง

ดังนั้นจึงไม่ควรมองข้ามปัญหาเรื่องอ้วน ว่าเป็นเพียงเรื่องความสวยความงามเท่านั้น เพราะที่จริงมันคือสัญญาณเตือนโรคร้ายให้กับเรา ที่ต้องหันมาเอาใจใส่ และดูแลตัวเองอย่างจริงจัง

อ้วนลงพุง

ความอ้วนที่เกิดจากการเสียสมดุลฮอร์โมนเช่นนี้ สามารถแก้ไขได้ด้วยการแพทย์ชลอวัย ( Anti Aging )
การรักษาตามหลักการแพทย์ชลอวัย (Anti Aging) เริ่มต้นจากการตรวจเช็คร่างกายเพื่อให้รู้ที่มาของปัญหา และจะได้แก้ไขได้ถูกต้อง มีการปรับสมดุลร่างกาย

ด้วยการกำจัดสารพิษ และปรับสมดุลฮอร์โมนด้วยวิธีธรรมชาติ เพื่อให้ร่างกายกลับมาทำงานได้ตามปกติ มีการเผาผลาญ นำพลังงานไปใช้ได้ตามปกติ นอกจากนี้ก็อาจจะมีการดูแลเรื่องอาหาร และการออกกำลังกายเพิ่มเติม ตลอดจนการใช้เครื่องมือต่างๆเพื่อช่วยให้เกิดการทำลายเซลล์ไขมัน และเร่งการเผาผลาญให้มากขึ้น ก็จะทำให้เห็นผลได้เร็วขึ้น

จะเห็นได้ว่า อ้วนลงพุง แก้ไขได้ ตามวิธีการที่เล่ามา ดังนั้นอย่าปล่อยให้ห่วงยางอยู่รอบเอวอีกต่อไปเลยค่ะ เพราะไขมันที่รอบเอวมีอันตรายมากกว่าความไม่ดูดีมากมายจริงๆ