Posted on Leave a comment

ธัญพืชลดเสี่ยงโรคหัวใจ

ธัญพืชลดเสี่ยงโรคหัวใจ

กินธัญพืชทุกวัน
ธัญพืชจัดเป็นอาหารที่ควรรับประทานเป็นประจำทุกวัน

ผลงานวิจัย7ชิ้น ที่ทำวิจัยกับอาสาสมัครกว่า 285,000คน

พบว่าผู้ที่รับประทานธัญพืชวันละ 2 ถ้วยครึ่ง หรือขนมปังโฮวีทประมาณ2แผ่น มีแนวโน้มว่าจะเป็นโรคหัวใจลดลง 20 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่รับประทานธัญพืชในแต่ละวันน้อยกว่านั้นหรือไม่รับประทานเลย

สำหรับคนที่รับประทานข้าวเป็นหลักวิธีในที่สุดโดยไม่จำเป็นต้องหารับประทานเพิ่มขึ้นก็คือ เปลี่ยนมารับประทานข้าวกล้องซึ่ง เพียงพอจะช่วยให้หัวใจแข็งแรงขึ้นแล้ว

‼️TIP : การรับประทานข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ อาหารมื้อเช้าวันละ9กรัม ช่วยให้ผนังหลอดเลือดของผู้ที่มีน้ำหนักมากกว่าปกติ มีคลอเรสเตอรอลสูง เป็นเบาหวาน หรือโรคความดันโลหิตสูง ขยายตัวเพิ่มขึ้น 40เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเท่ากับลดอัตราเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจวาย ลงไปด้วยนั่นเอง

 

เรื่องราวเพิ่มเติม ตัวช่วย ตอบโจทย์
https://789beauty.com/

❥เดนิมพลัส วันละเม็ด
เผาผลาญแทนออกกำลังกาย
❥ ใช้หลักการ เน้นการเบิร์น Burn และการบล็อค Block โดยทำให้ร่างกายสามารถทำการ Burn ได้ตลอดทั้งวัน โดยทำให้เกิด กระบวนการเมตาบอลิซึม Metabolism ได้ตลอดทั้งวัน ยับยั้งย่อยแป้ง + ดักจับไขมัน แล้วขับถ่ายออก

เดนิมพลัส
เคล็ดลับดูแลรูปร่าง
Posted on Leave a comment

มะเขือเทศเสริมกระดูก

มะเขือเทศ

 

มะเขือเทศได้ชื่อว่าเป็นอาหารที่มีสารต้านอนุมูนอิสระไลโคปีนสูงโดยผลวิจัยจากสหรัฐอเมริกาพบว่าผู้ที่รับประทานอาหารที่มีไลโคปีนสูงเป็นประจำโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิงสูงวัยช่วยป้องกันไม่ให้มวลกระดูกลดลงจากมะเขือเทศ ผักผลไม้อื่นที่มีหลายคบปีนสูงได้แก่แตงโมฝรั่ง ชมพู่ มะละกอ เป็นต้น

สรรพคุณของมะเขือเทศ

1. ช่วยให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับโรคหอบหืดได้มากถึง 45%
2. ช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อมหรืออัลไซเมอร์
3. ช่วยรักษาโรคลักปิดลักเปิด เลือดออกตามไรฟัน
4. ช่วยป้องกันการแข็งตัวของหลอดเลือด
5. มะเขือเทศมีฤทธิ์ในการช่วยขับปัสสาวะ
6. ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง
7. ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ
8. ช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดภาวะเส้นเลือดตีบ การเกิดโรคหัวใจวาย สำหรับผู้ที่สูบบุหรี่เป็นประจำ
9. ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจขาดเลือด
10. ช่วยในระบบย่อยในกระเพาะอาหารและช่วยในการขับถ่ายอุจจาระได้สะดวก
11. ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราหรือเชื้อราที่ปาก
12. ช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคมะเร็งลำไส้
13. ช่วยลดความเสี่ยงจากโรคมะเร็งต่อมลูกหมากในเพศชายได้ถึง 45% หากรับประทานมะเขือเทศเป็นประจำ
14. ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งรังไข่ในเพศหญิง
15. ซอสมะเขือเทศช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดหลังจากการหกล้มหรือถูกมีดบาดได้

ประโยชน์ของมะเขือเทศ

1. ช่วยบำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื่นสดใส ไม่แห้งกร้าน
2. มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดและชะลอการเกิดริ้วรัยแห่งวัย
3. น้ำมะเขือเทศช่วยเพิ่มความสดชื่นให้แก่ร่างกาย
4. ช่วยเสริมคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง
5. มีวิตามินเอซึ่งมีส่วนชวยบำรุงสายตา
6. มะเขือเทศมีเบตาแคโรทีนและฟอสฟอรัสในปริมาณมาก
7. มะเขือเทศช่วยในการรักษาสิว ด้วยการนำน้ำมะเขือเทศมาพอกผิวหน้าหรือฝานบาง ๆ แล้วนำมาแปะหน้าก็ได้
8. ช่วยทำให้ผิวหน้าเต่งตึงสดใส ด้วยการนำน้ำมะเขือเทศมาพอกผิวหน้าหรือฝานบาง ๆ แล้วนำมาแปะหน้าก็ได้
9. มะเขือเทศใช้นำมาทำเป็นน้ำผลไม้ โดยน้ำผลไม้ที่ขึ้นชื่อก็คือน้ํามะเขือเทศดอยคํา
10. เป็นที่นิยมนำมาทำเป็นอาหารได้หลายเมนู เช่น ข้าวผัด ซุป ยำต่าง ๆ เป็นต้น
11. ซอสมะเขือเทศหมักผม ด้วยการใช้มะเขือเทศหมักผมจะช่วยป้องกันการเปลี่ยนไปของสีผม อันเนื่องมาจากการว่ายน้ำในสระที่มีคลอรีน
12. ซอสมะเขือเทศนำมาใช้ขัดเครื่องประดับเงินชิ้นโปรดของคุณให้เงางามเหมือนเดิมได้ ด้วยนำซอสมะเขือเทศมาถูแล้วล้างน้ำออก
13. ซอสมะเขือเทศช่วยในการดับกลิ่นคาว เศษอาหาร กลิ่นปลาสลิดได้เหมือนกันนะ เพียงแค่เปิดฝาซอสทิ้งไว้ 1 คืนเท่านั้น

เรื่องราวเพิ่มเติม ตัวช่วย ตอบโจทย์
https://789beauty.com/

เดนิมพลัส วันละเม็ด
เผาผลาญแทนออกกำลังกาย
❥ ใช้หลักการ เน้นการเบิร์น Burn และการบล็อค Block โดยทำให้ร่างกายสามารถทำการ Burn ได้ตลอดทั้งวัน โดยทำให้เกิด กระบวนการเมตาบอลิซึม Metabolism ได้ตลอดทั้งวัน ยับยั้งย่อยแป้ง + ดักจับไขมัน แล้วขับถ่ายออก

เดนิมพลัส
เคล็ดลับดูแลรูปร่าง
Posted on

อาการรอบเดือนกับการลดน้ำหนัก

อาการช่วงมีประจำเดือน

ในช่วงที่เรามีประจำเดือนเราจะมีอาการหลากหลาย บางคนอาจจะอยากอาหารเพิ่มขึ้นกว่าปกติ ร่างกายจะอมน้ำได้ง่ายกว่าปกติ ทำให้ตัวเราบวมๆ ในช่วงวันนั้นของเดือน บางคนอารมณ์แปรปรวน ฯลฯ ล้วนแต่เป็นผลมาจากฮอร์โมนในร่างกายเราที่เปลี่ยนแปลง อาการตัวบวม เกิดจากการที่ฮอร์โมนบางตัวส่งผลให้ร่างกายสะสมน้ำไว้ในชั้นเนื้อเยื่อร่างกายมากขึ้น ผลก็คือจะทำให้น้าหนักตัวเพิ่ม อึดอัด ตัวบวม เต้านมคัดตึง

โดยรวมคืออาการหงุดหงิดและไม่สบายกับร่างกาย เราเรียกอาการแบบนี้ทางการแพทย์ว่า ”กลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือน” ( PMS: Premenstrual Syndrome ) หนึ่งในกลุ่มอาการนี้ได้แก่ ตัวบวม หน้าท้องขยาย ร่างกายจะสะสมน้ำเพิ่มขึ้น ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น ผู้หญิงบางคนอาจมีน้ำหนักเพิ่มได้ถึง 1-2 กิโลกรัม  ในช่วงก่อนมีประจำเดือน หลังจากนั้นน้ำหนักจะลดลงได้เอง อาการไม่สบายขณะมีรอบเดือนพบได้หลากหลายกว่า 150 ชนิด แต่เราสามารถแบ่งเป็น 5 กลุ่มใหญ่ๆได้แก่
* เจ้าน้ำตา
* ท้องอืด (นี่เราก็เป็น)
* ขี้โมโห
* ไม่มีแรง
* หิวบ่อย (อันนีก็เป็น เป็นทุกเดือน)
* น้ำหนักขึ้น

อาการหิวบ่อย สาเหตุของอาการหิวบ่อยเกิดจากการที่สาร ”เซโรโทนิน”ในร่างกาย ลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงก่อนมีรอบเดือนค่ะ ทำให้ร่างกายของเราต้องการคาร์โบไฮเดรตมากกว่าปกติ เพื่อให้ร่างกายใช้ของหวานไปเพิ่มสารตัวนี้ นับว่าเป็นกลไกทางธรรมชาติ เพราะอะไรผู้หญิงจึงได้มีอาการก่อนมีประจำเดือน แพทย์หลายคนจะตอบว่าเป็นเพราะสมดุลของฮอร์โมนในร่างกายผิดปกติ

โดยเชื่อกันว่ามีฮอร์โมนอยู่สองชนิดที่น่าจะเกี่ยวข้องกับอาการนี้ นั่นคือ ฮอร์โมนโพรเจสเทอโรน (Progesterone) และ โพรแลกติน (prolactin) ก่อนมีประจำเดือน ฮอร์โมนทั้ง 2 ชนิดนี้จะมีระดับสูงขึ้น มีผลทำให้เราหงุดหงิด ขี้โมโห และมีอาการอื่นๆอีกเป็นร้อยอาการทีเดียว

จบทุกปัญหาของผู้หญิง คลิ๊ก

►เคล็ดลับพิเศษ
ปรับร่างกายให้สมดุลย์
♡รีนูว่า วันละเม็ดก่อนนอน

renuva
renuva

 

เคล็ดลับดูแลรูปร่าง คลิ๊ก

❥เดนิมพลัส วันละเม็ด
เผาผลาญแทนออกกำลังกาย
❥ ใช้หลักการ เน้นการเบิร์น Burn และการบล็อค Block โดยทำให้ร่างกายสามารถทำการ Burn ได้ตลอดทั้งวัน โดยทำให้เกิด กระบวนการเมตาบอลิซึม Metabolism ได้ตลอดทั้งวัน ยับยั้งย่อยแป้ง + ดักจับไขมัน แล้วขับถ่ายออก

เดนิมพลัส
เคล็ดลับดูแลรูปร่าง
Posted on Leave a comment

ควบคุมน้ำหนักไขมันลดลงดื่มนมถั่วเหลืองหรือนมไร้ไขมัน

นมถั่วหลือง

นมไร้ไขมันหรือนมถั่วเหลืองช่วยควบคุมน้ำหนัก

นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยนอร์เทิร์นอิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกาให้อาสาสมัครผู้หญิง ดื่มนมไร้ไขมันและนมถั่วเหลือง วันละ3 แก้ว เป็นเวลา 8 สัปดาห์

ผลการวิจัยพบว่าไม่ว่าจะดื่มนมไร้ไขมันหรือนมถั่วเหลือง

ล้วนช่วยให้น้ำหนักและไขมันลดลงในปริมาณเท่าๆกัน รวมทั้งช่วยให้เอวลดลงด้วย

นมถั่วหลือง
นมไร้ไขมันหรือนมถั่วเหลืองช่วยควบคุมน้ำหนัก

สำหรับผู้ที่ดื่มนมถั่วเหลือง ควรรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมสูง เช่น

ปลาตัวเล็กตัวน้อย กุ้งแห้ง กะปิและผักต่างๆ เพิ่มเติมด้วย เพราะป้องกันไม่ให้ร่างกายขาดแคลเซียม ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นในการเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง

 

เรื่องราวเพิ่มเติม ตัวช่วย ตอบโจทย์

❥เดนิมพลัส วันละเม็ด
เผาผลาญแทนออกกำลังกาย
❥ ใช้หลักการ เน้นการเบิร์น Burn และการบล็อค Block โดยทำให้ร่างกายสามารถทำการ Burn ได้ตลอดทั้งวัน โดยทำให้เกิด กระบวนการเมตาบอลิซึม Metabolism ได้ตลอดทั้งวัน ยับยั้งย่อยแป้ง + ดักจับไขมัน แล้วขับถ่ายออก

เดนิมพลัส
เคล็ดลับดูแลรูปร่าง
Posted on Leave a comment

สุดยอดสรรพคุณมะนาว

มะนาว

มะนาวเพิ่มภูมิคุ้มกัน

การดูแลระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรเลย

เพียงแค่บีบน้ำมะนาวครึ่งช้อนโต๊ะลงในน้ำเปล่าที่ต้องดื่มทุกวัน ควรดื่มในตอนเช้าจะดีที่สุด จะช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามินซีเกือบ 20 เปอร์เซ็นต์ ของปริมาณที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน

แม้จะเป็นปริมาณเพียงเล็กน้อยแต่ก็เป็นเพียงพอจะช่วยกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แล้วนอกจากนั้นยังช่วยให้หัวใจ เส้นเอ็น กระดูก และหลอดเลือด แข็งแรงอีกด้วย

ส่วนปริมาณวิตามินซีอีก 80% จะได้จากการรับประทานผักและผลไม้ในแต่ละวัน

หากกลัวว่าอาจรับประทานผลไม้ไม่เพียงพอก็ให้เพิ่มปริมาณน้ำมะนาวเป็นสองผล จะบีบในน้ำเปล่าหรือชาแล้วดื่มทีเดียว หรือดื่มในปริมาณน้อย แต่วันละหลายครั้งก็ได้

TIP..
เมื่อบีบมะนาวแล้วควรดื่มทันที ไม่ควรทิ้งมะนาวไว้นานกว่าครึ่งชั่วโมงเพราะจะทำให้วิตามินซีในมะนาวสลายไป

น้ำมะนาว
เพิ่มภูมิคุ้มกัน

 

ถ้าเรามองประโยชน์ชัดๆ ของมะนาว ที่ไม่ต้องไปรักษาโรคภัยที่สลับซับซ้อนทั้งหลาย แค่โรคและอาการที่สามารถดูแลตนเองได้

ประโยชน์จากมะนาวก็มีมากมาย ตั้งแต่ความรู้พื้นฐานว่ามะนาวเปี่ยมไปด้วยวิตามินซี และยังมีกรดซิตริกตามธรรมชาติ วิตามินซี ความเปรี้ยวและฤทธิ์ของกรดนี้มีส่วนช่วยให้อารมณ์แจ่มใส คลายเครียด และช่วยแก้ความอ่อนล้าอ่อนเพลีย
เคยสังเกตไหม เวลาเหนื่อยๆ หรือต้องการความสดชื่น ถ้าได้ดื่มน้ำมะนาวเย็นๆ แล้วชื่นใจ ใครที่กำลังวิตกกังวล เครียด ให้น้ำมะนาวดีกว่าไปปรับทุกข์กับสุรายาดอง

วิตามินซีนั้นยังช่วยบรรเทาอาการหวัด และขอบอกด้วยว่า กรดซิตริกที่มีในน้ำมะนาวนั้น กรดชนิดนี้มีสรรพคุณช่วยลดไข้ ลดอาการอักเสบได้ และกรดซิตริกในมะนาวยังมีความแปลกตรงที่ความเปรี้ยวของเขาแต่กลับมีฤทธิ์สมานได้ดีเหมือนสมุนไพรรสฝาดสมานด้วย จึงพอพูดทำนองว่ามะนาวรสเปรี้ยวแต่ก็มีฤทธิ์สมานนั่นเอง ซึ่งถ้ามองด้วยสายตาตามภูมิปัญญาแพทย์แผนไทย ก็เหมือนมะนาวเป็นข้อยกเว้นในเรื่องรสยาฝาดสมานด้วย
การมีรสเปรี้ยว มีวิตามินซีช่วยอาการหวัด และฤทธิ์สมานนี้ นำมาใช้ปรุงเป็นยาสมุนไพรที่ทุกครัวเรือน

น่าจะเรียนรู้นำไปใช้ในการแก้อาการไอ เจ็บคอ และวิธีปรุงน้ำมะนาวจิบกินนั้นง่ายมาก ให้ใช้น้ำมะนาว 1 ส่วน น้ำสุก 1 ส่วน น้ำผึ้ง 1 ส่วน หรือเป็นน้ำตาลอ้อยหรือน้ำเชื่อมก็ได้ แต่งเกลือนิดหน่อย ผสมให้เข้ากัน ใช้จิบบ่อยๆ ขอให้ใช้จิบ อย่าดื่มรวดเดียวเพราะจะไม่ช่วยแก้อาการไอเจ็บคอ ขอแนะนำไว้สักนิดว่า น้ำสุกที่ผสมไม่ควรเป็นน้ำร้อนเพราะจะไปสลายวิตามินซีในมะนาวออกไป

วิธีที่ง่ายที่สุดอีกวิธีในการช่วยแก้ไอ เจ็บคอ หรือแก้เสียงแหบแห้งคือ ตื่นนอนตอนเช้าให้ผ่ามะนาวครึ่งลูก จิ้มเกลือบีบลงคอ ทำวันละครั้งพอ ทุกเช้า

เปลือกมะนาวก็เป็นยา แม้ว่ามะนาวจะราคาถูก เปลือกมะนาวก็ไม่น่าจะทิ้งขว้าง เคยสังเกตส้มตำอีสานหรือไม่ นอกจากปรุงให้อร่อยต้องใส่เปลือกมะนาวลงไปด้วย เปลือกมะนาวยังมีประโยชน์ ดังความรู้ของคนโบราณที่สืบต่อมาว่าให้อมหรือเคี้ยวเปลือกมะนาวจะแก้เจ็บคอได้ แล้วก็มีการศึกษาของต่างชาติพบว่าเปลือกมะนาวมีสารจำพวกคล้ายๆ สเตียรอยด์ธรรมชาติ ซึ่งออกฤทธิ์ลดการอักเสบ

การอมและเคี้ยวมะนาวพร้อมเปลือกจึงได้สรรพคุณยาสมุนไพรนั่นเอง

มะนาวยังมีประโยชน์อื่นๆ อีกมาก รวมถึงใช้เป็นยาภายนอก รักษาสิว บำรุงผิว ฯลฯ แต่อยากจะแนะนำตำรับยาตามภูมิปัญญาดั้งเดิมขนานหนึ่งว่า ยาอายุวัฒนะ ตำราให้นำมะนาว 50 ลูก (ล้างน้ำสะอาดแล้วผึ่งให้แห้ง) ผสมน้ำผึ้งลงไป 1 ขวดกลม แล้วใส่พริกไทยร่อนตำให้ละเอียดลงไป 1/2 แก้ว แช่หรือโบราณเรียกว่าดองน้ำผึ้งไว้อย่างน้อย 3 วัน (มากกว่านี้ได้) แล้วให้กินมะนาวดองน้ำผึ้งผสมพริกไทยนี้วันละ 1 ลูก (กินน้ำผึ้งด้วยก็ได้) ถือว่าเป็นยาบำรุงร่างกายตำรับหนึ่งที่ทำง่าย และน่าทำช่วงมะนาวราคาถูกเช่นนี้

มะนาวเป็นทั้งอาหารและยาสมุนไพรที่ใกล้ตัว ราคาถูก
แต่ถ้าได้พลังผู้บริโภคมาช่วยใช้กันมากๆ ก็จะช่วยชาวสวนและเศรษฐกิจฐานรากของสังคมไทยด้ว

เรื่องราวเพิ่มเติม ตัวช่วย ตอบโจทย์
https://789beauty.com/

เดนิมพลัส วันละเม็ด
เผาผลาญแทนออกกำลังกาย
❥ ใช้หลักการ เน้นการเบิร์น Burn และการบล็อค Block โดยทำให้ร่างกายสามารถทำการ Burn ได้ตลอดทั้งวัน โดยทำให้เกิด กระบวนการเมตาบอลิซึม Metabolism ได้ตลอดทั้งวัน ยับยั้งย่อยแป้ง + ดักจับไขมัน แล้วขับถ่ายออก

เดนิมพลัส
เคล็ดลับดูแลรูปร่าง

 

 

Posted on Leave a comment

10 วิธีเผาผลาญแคลอรี่ อย่างง่ายๆ

เผาเผาลาญ
เผาผลาญ แคลอรี่
10วิธีการเผาผลาญแคลอรี่อย่างง่าย

วันนี้เรามีวิธีการเผาผลาญแคลอรี่อย่างง่ายๆ ที่ใครก็ทำได้มานำเสนอ

10. นอนหลับ

การนอนหลับสนิท ความลับที่เพิ่งจะค้นพบก็คือ กล้ามเนื้อเรียบในร่างกายเรา จะทำงานเผาผลาญแคลอรี่ ได้ดีที่สุดในชั่วโมงหลังๆ ที่เราหลับสนิทเต็มที่ ร่างกายจะหลั่งฮอร์หนุ่มสาว โกรธฮอร์โมน อีกด้วย ควรพักผ่อนอย่างน้อยวันละ 8ชั่วโมง และยิ่งนอนดึกยิ่งอ้วนอีกด้วย

9. อย่าเครียด

ความเครียดจะทำให้เราอ้วนขึ้น เพราะฮอร์โมนคอร์ติโซนจะไปทำให้อัตราดูซึมของเมตาบอลิซึ่มช้าลง

8.ดื่มน้ำเยอะ

การดื่มน้ำในปริมาณมากพอต่อวัน จะช่วยขับสารพิษ หลังจากที่ร่างกายเผลาผลาญพลังงานแล้ว น้ำเย็นๆ ยังช่วยกระตุ้นให้เมตาบอลิซึ่มทำงานดีขึ้นนิดหนึ่งด้วย วิธีดื่มน้ำที่ถูกต้อง ดื่มบ่อยๆทุกครึ่งชั่วโมง หรือทุกชั่วโมง ต่อน้ำหนักตัว25kg. ต่อน้ำ1 ลิตร ต่อวัน เช่น น้ำหนัก 50 ต้องดื่มน้ำไม่ต่ำกว่า 2ลิตร ต่อวัน

7.ดื่มชาเขียว

เครื่องดื่มชาเขียว เป็นเครื่องดื่มที่ช่วยเร่งเมตาบอลิซึ่มได้ดีและปลอดภัยกว่ากาแฟ แถมมีประโยชน์อีกด้วย

6.กินอาหารเผ็ดร้อน

การรับประทานอาหารประเภทเผ็ดร้อน รสจัด จะช่วยเร่งการเผาพลาญร่างกายของคุณจากภายในให้รวดเร็วยิ่งขึ้นไปอีก

5.กินอาหารเช้า

เป็นความจริงที่ว่า คนที่กินอาหารเช้าที่มีประโยชน์ หุ่นดีกว่า คนที่อดข้าวเช้า และอาหารเช้ายังทำให้ระดับ เมตาบอลิซึ่ม ของคุณวันนั้นพุ่งเป็น 2 เท่าด้วย

4.งดน้ำตาล

เหตุผลง่ายๆ ก็คือ น้ำตาลที่เหลือใช้แล้ว ร่างกายจะแปรสภาพเป็นไขมัน เพราะฉะนั้น ลดน้ำตาล ก็จะช่วยลดไขมันไปในตัว ต่อหนึ่งวัน ไม่ควรได้รับน้ำตาล เกิน4ช้อนชา

3.กินบ่อยๆ

ยิ่งร่างกายคุณขาดสารอาหาร กล้ามเนื้อก็จะล้า การเผาผลาญก็จะน้อยลง ทางที่ดีกินเป็นมื้อเล็กๆ วันละ 3-4 มื้อ ยังดีกว่าอดอาหารไปเลย ยิ่งอดคาร์โบรไฮเดรต มวลกล้ามเนื้อยิ่งหาย  มีผลกับระบบการเผาผลาญในร่างกาย เพิ่มมวลกล้ามเนื้อโดยการเพิ่มสารอาหารกลุ่มโปรตีน หรือ ออกกำลังกาย

2.ขยับตัว

อยากจะเผาผลาญแคลอรี่ให้เร็วที่สุด ก็ต้องออกกำลังกายอย่างน้อย ออกเดิน 30 นาที หรือ 1 ชม. วิ่งเหยาะๆ หรือเต้นแอโรบิกอาทิตย์ละ 3 ครั้ง ไม่ว่าจะออกกำลังกายแบบไหนก็ช่วยเพิ่มเมตาบอลิซึ่มทั้งนั้นล่ะ ให้หัวใจได้เต้นแรงเต็มที่ 120 ครั้งต่อนาที ให้ต่อเนื่องนานสัก 30-45 นาที

1.เสริมสร้างกล้ามเนื้อ

“ยิ่งคุณมีกล้ามเนื้อเรียบมาก ร่างกายคุณก็จะเผาผลาญพลังงานมาก” การยกดัมเบลล์อย่างน้อยอาทิตย์ละ 2 ครั้ง ก็จะช่วยเพิ่มเมตาบอลิซึ่ม เหมือนกัน และช่วงที่ระดับเมตาบอลิซึ่มคุณจะพุ่งสุดขีดนั่นเอง ไม่ใช่ตอนที่คุณวิ่งหอบแฮกๆ บนสายพานหรอกนะแต่หลังจากนั้นอีกสัก 2- 3 ชม.

เรื่องราวเพิ่มเติม ตัวช่วย ตอบโจทย์

❥เดนิมพลัส วันละเม็ด
เผาผลาญแทนออกกำลังกาย
❥ ใช้หลักการ เน้นการเบิร์น Burn และการบล็อค Block โดยทำให้ร่างกายสามารถทำการ Burn ได้ตลอดทั้งวัน โดยทำให้เกิด กระบวนการเมตาบอลิซึม Metabolism ได้ตลอดทั้งวัน ยับยั้งย่อยแป้ง + ดักจับไขมัน แล้วขับถ่ายออก

เดนิมพลัส
เคล็ดลับดูแลรูปร่าง
Posted on Leave a comment

ลดน้ำหนัก รับประทานคาร์โบไฮเดรตน้อยเสี่ยงมะเร็ง

ลดน้ำหนัก กินคาร์โบไฮเดรตน้อย

ลดน้ำหนักให้ถูกวิธี ห่างไกลโรคร้าย

ลดน้ำหนักรับประทานคาร์โบไฮเดรตน้อย หรือไม่รับประทานคาร์โบไฮเดรตเลย ทำให้แบคทีเรียที่ช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ลดลงถึง 4 เท่า

เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่รับประทานกับ คาร์โบไฮเดรต มากกว่า การเลิกรับประทานคาร์โบไฮเดรตไปเลย ไม่ใช่วิธีที่เหมาะสมในการลดน้ำหนักเพราะแม้น้ำหนักลดลงแต่กลับเสี่ยงเป็นมะเร็งมากขึ้น

วิธีที่ดีกว่า ควรเลือกคาร์โบไฮเดรตไฟเบอร์สูง อย่างข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีท

ปริมาณแคลอรี่ต่อวัน

คาร์โบไฮเดรต
ลดน้ำหนักอย่างถูกวิธี

เรื่องราวเพิ่มเติม ตัวช่วย ตอบโจทย์

❥เดนิมพลัส วันละเม็ด
เผาผลาญแทนออกกำลังกาย
❥ ใช้หลักการ เน้นการเบิร์น Burn และการบล็อค Block โดยทำให้ร่างกายสามารถทำการ Burn ได้ตลอดทั้งวัน โดยทำให้เกิด กระบวนการเมตาบอลิซึม Metabolism ได้ตลอดทั้งวัน ยับยั้งย่อยแป้ง + ดักจับไขมัน แล้วขับถ่ายออก

เดนิมพลัส

เคล็ดลับดูแลรูปร่าง

Posted on Leave a comment

กินป้องกันเหี่ยว

แสงแดดเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำร้ายผิวหนังนอกจากเสี่ยงเป็นมะเร็ง แล้วยัง…
ทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่นก่อนวัยอันควรอีกด้วยการรับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระฟลาโวนอยด์สูง..ช่วยลดอาการดังกล่าว

จากการทดสอบให้ผู้หญิงรับประทานสารฟลาโวนอยด์ วันละ 329 มิลลิกรัม(เท่ากับดื่มเครื่องดื่มช็อกโกแลตเข้มข้น3.5ออนซ์) เป็นเวลา 12 สัปดาห์

พบว่าช่วยป้องกันไม่ให้ผิวหนังมีรอยแดงจากการอยู่กลางแดดเป็นเวลานานได้ 25 เปอร์เซ็นต์ เพราะฟลาโวนอยด์ มีส่วนช่วยให้เลือดภายในเซลล์ผิวหนังไหลเวียนได้ดีขึ้น จึงป้องกันเซลล์ผิวหนังจากการถูกแสงแดดทำร้ายได้

อาหารที่มีโฟลวานอยด์สูง ได้แก่ช็อกโกแลต ชาดำ ชาเขียว กะหล่ำปลี แอปเปิ้ลแดง และบรอกโคลี เป็นต้น

เรื่องราวเพิ่มเติม ตัวช่วย ตอบโจทย์
https://789beauty.com/

เดนิมพลัส วันละเม็ด
เผาผลาญแทนออกกำลังกาย
❥ ใช้หลักการ เน้นการเบิร์น Burn และการบล็อค Block โดยทำให้ร่างกายสามารถทำการ Burn ได้ตลอดทั้งวัน โดยทำให้เกิด กระบวนการเมตาบอลิซึม Metabolism ได้ตลอดทั้งวัน ยับยั้งย่อยแป้ง + ดักจับไขมัน แล้วขับถ่ายออก

เดนิมพลัส

Posted on Leave a comment

อย่ามองข้ามมันเทศ

มันเทศอุดมไปด้วย วิตามินเอ วิตามินซีโฟเลต วิตามินอี ธาตุเหล็ก แคลเซี่ยม
นอกจากนี้ ยังมีไฟเบอร์สูงอีกด้วย

เมื่อเทียบกันแล้ว มันเทศมีสารอาหารต่างๆมากกว่าแครอท และมันฝรั่งเสียอีก และถ้าหากรับประทานมันเทศทั้งเปลือก จะช่วยให้ร่างกายได้รับ..เบต้าเคโรทีนเพิ่มขึ้น ถึง4 เท่า

ผลการวิจัยพบว่าการที่มันเทศ  มีสารอาหารสำคัญต่างๆสูง  ช่วยป้องกันโรคร้ายหลายโรค  เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง  รวมทั้งอัลไซเมอร์ด้วย

เรื่องราวเพิ่มเติม ตัวช่วย ตอบโจทย์
https://789beauty.com/

เดนิมพลัส วันละเม็ด
เผาผลาญแทนออกกำลังกาย
❥ ใช้หลักการ เน้นการเบิร์น Burn และการบล็อค Block โดยทำให้ร่างกายสามารถทำการ Burn ได้ตลอดทั้งวัน โดยทำให้เกิด กระบวนการเมตาบอลิซึม Metabolism ได้ตลอดทั้งวัน ยับยั้งย่อยแป้ง + ดักจับไขมัน แล้วขับถ่ายออก

เดนิมพลัส

 

Posted on Leave a comment

เคล็ดลับหน้าเด็กตลอดกาล

เคล็ดลับหน้าเด็ก

การดูแลรักษาผิวหน้า…ชะลอความหย่อนยาน เคล็ดลับหน้าเด็กตลอดกาล


ความหย่อนคล้อย หรือเหี่ยวย่นของผิวหน้า เป็นสิ่งที่สาวๆ ทุกคนประหวั่นพรั่นพรึงยิ่งกว่าความตายเสียอีก โดยเฉพาะ… หากเป็นความเหี่ยวย่นที่มาถึงก่อนเวลาอันควร ยิ่งน่าสะพรึงกลัวเหลือเกิน สำหรับสาวๆ ที่ต้องแต่งหน้าทุกวันเพื่อไปทำงาน บางคนอายุเพียงแค่ 30 ปีกว่าๆ ก็มีผิวที่หย่อนยานลงซะแล้ว…

มีสาเหตุหลายประการที่ทำให้เกิดปัญหาดังกล่าว หลักๆ คือการขาดความรู้เรื่องผิวพรรณ และวิธีการดูแลที่ถูกต้อง เช่นการใช้เครื่องสำอางที่ไม่ถูกกับสภาพผิว อาจมากเกินไป หรือน้อยเกินไป เป็นต้น

วิธีการดูแล
ควรนวดหน้าทุกคืนด้วยตนเอง เป็นการกระตุ้นให้เซลล์ตื่นตัว เพื่อสร้างเซลล์ใหม่และผลัดเซลล์เก่าออก ทั้งยังช่วยให้การไหลเวียนของโลหิตไปหล่อเลี้ยงผิวดีขึ้น กล้ามเนื้อจะกระชับ ทำให้การหย่อนยานลดลง ส่วนการกดจุดบนใบหน้าวันละครั้ง ก็สามารถช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อและเส้นประสาท ทำให้การไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น เราสามารถกดจุดได้ทุกที่และทุกเวลา

เครื่องสำอางบางชนิดที่มีสรรพคุณกระชับผิวที่หย่อนยานให้เต่งตึงขึ้นก็สามารถช่วยได้ แต่ต้องทำเป็นประจำ มีให้เลือกหลายชนิด และมีชื่อต่างกันไป เช่น Essence Lighting Cream จะลองดูก็ได้ บางคนใช้ได้ผล ส่วนคนที่ใช้บ้างไม่ใช้บ้างอาจไม่ได้ผล สำหรับผู้ทีมีอายุมาก เช่น คน อายุ 60 ปีขึ้นไป อาจได้ผลน้อย
สำหรับท่านที่มีงบน้อย แนะนำให้ใช้ของในครัวเรือน เช่น น้ำมันงา น้ำมันมะพร้าวชนิดหีบเย็นนวดหน้า หลังจากนวดแล้วให้พอกผิวด้วยสูตรผักรวมบด เพื่อกระตุ้นให้ผิวสดชื่นเต่งตึงขึ้น ทำความสะอาดแล้วหลังจากนั้นใช้โลชั่นแตงกวาชโลมให้ทั่วใบหน้า สมานผิวกระชับรูขุมขน

สูตรบำรุงผิวจากธรรมชาติ
สูตรผักบด
• ใช้กับทุกสภาพผิว ประกอบด้วย แตงกวา มะเขือเทศ แครอท อะโวคาโด บดแล้วผสมนมผงให้เข้ากัน พอกหน้าทิ้งไว้ 10-20 นาที แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด ผิวจะขาวเต่งตึงขึ้น
โลชั่นแตงกวา
• ปั่นแตงกวาให้ละเอียด ใช้ผ้าขาวบางกรองให้เหลือแต่น้ำ ผสมน้ำสะอาดเท่าตัว ใส่ภาชนะมีฝาปิด นำไปแช่เย็น นำมาเป็นโลชั่นกระชับรูขุมขน ลดความมันได้
• ส่วนเนื้อของแตงกวา นำมาผสมกับไข่ไก่ 1 ฟอง และน้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ คนให้เป็นเนื้อเดียวกัน ใช้พอกหน้าทิ้งไว้ 15 นาที แล้วล้างออก จะทำให้ผิวที่หยาบกร้านหลุดออกไป ผิวหน้าจะสดชื่นเปล่งปลั่ง (แตงกวาควรเลือกที่ปลอดภัยจากสารเคมี)

เคล็ดลับที่ช่วยให้ผิวเต่งตึงเปล่งปลั่ง คือ การนวดหน้าอย่างสม่ำเสมอที่ทำได้ทุกวัน บางคนเข้าใจผิดคิดว่าการนวดหน้าทำให้ผิวเหี่ยวย่น จริงๆ แล้ว การนวดหน้าทำให้การไหลเวียนของโลหิตที่ไปหล่อเลี้ยงผิวนั้นดีขึ้น และยังกระตุ้นให้เซลล์เก่าและรูขุมขนขับน้ำมันออกมาตามปกติ การนวดหน้าสามารถทำได้ด้วยตนเองนะคะ ถึงจะเป็นแม่บ้าน เป็นสาวก้นครัว แต่ก็ยังสวยได้จริงๆ ค่ะ

✦คลิกที่รูป

❥ไม่ง้อเข็ม…

✦บอกลา ริ้วรอย ชะลอความชรา
สเปรย์ทั่วใบหน้า รักนางเลย??

✦เป๊ะเว่อร์ สีผิวสม่ำเสมอ ริ้วตื้น หน้าเรียบเนียน รูขุมขนตื่น ปรับรูปหน้า เริ่ดๆ ??