Posted on Leave a comment

อ้วนลงพุงอันตรายกว่าที่คิด

เผาผลาญไขมัน

อ้วนลงพุงอันตรายกว่าที่คิด

อ้วนลงพุง หรือการมีไขมันช่องท้องอันตรายที่สุด  แม้ว่าเราจะมีน้ำหนักปกติก็ อย่าได้วางใจ อย่าคิดว่าเราไม่เป็นโรคอย่างแน่นอน เราอาจจะคิดผิดไปก็ได้ เพราะถึงแม้ว่าน้ำหนักตัวของเราจะอยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่กลับมีพุงยื่น

ลองวัดเส้นรอบเอวดูว่าเรามีภาวะอ้วนลงพุงหรือไม่ วิธีการง่ายง่ายคือส่วนสูงหารด้วยสอง แล้วพบว่าค่าที่ได้ถ้าเกินครึ่ง ถือว่าเริ่มมีภาวะอ้วนลงพุง หรือเส้นรอบเอวผู้หญิงเกิน 80 เซนติเมตร และผู้ชายเกิน 90 เซนติเมตร

ขอให้ทราบไว้เลยว่าภัยร้ายกำลังจะคืบคลานเข้ามาโดยที่เราอาจจะยังไม่ทันได้ตั้งตัวจะรู้อีกทีก็เป็นโรคไปเสียแล้ว

ไขมันในช่องท้องเป็นไขมันที่สามารถละลายเข้าสู่กระแสเลือดและไปสะสมที่อวัยวะต่างๆได้เมื่อไขมันไปสะสมที่อวัยวะต่างๆจะส่งผลดังต่อไปนี้

ผลต่อสมอง ไขมันสะสมตามผนังเส้นเลือดขวางการไหลเวียนเลือดทำให้เกิดโรคเส้นเลือดในสมองตีบอาจเสียชีวิตกระทันหัน

ผลต่อปอด ไขมันในช่องท้องที่มากขึ้นทำให้ปอดขยายตัวได้ไม่เต็มที่มีผลทำให้ระบบหายใจผิดปกติอาจนำไปสู่การหยุดหายใจขณะหลับได้

ผลต่อหัวใจ อาจทำให้ไขมันอุดตันในหลอดเลือดทำให้หัวใจต้องสูบฉีดแรงขึ้นหากรุนแรงมากอาจทำให้หัวใจวายได้

ผลต่อตับ ไขมันช่องท้องขัดขวางการเผาผ่านน้ำตาลในเซลล์ตับอ่อนจึงทำงานหนักในการผลิตอินซูลินส่งผลให้น้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้นเป็นสาเหตุของโรคเบาหวาน

ผลต่อถุงน้ำดี ไขมันในช่องท้องที่มีมากมีผลทำให้น้ำดีมีสภาพคนและเกิดนิวในถุงน้ำดีได้ง่าย

ผลต่อหัวเข่า ไขมันในช่องท้องทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นพวกเขาต้องรับน้ำหนักมากขึ้นอาจทำให้เกิดโรคข้อเข่าเสื่อม

ภาวะอ้วนลงพุงสามารถแก้ไขได้โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน ลดอาหารทอด อาหารมัน เลือกกินอาหารประเภท ต้ม ยำ อบ หรือนึ่ง แทน ร่วมกับการเพิ่มกิจกรรมทางกายง่ายๆ เช่นการเดินเร็วครั้งละ 10 นาที วันละ3ครั้ง หากพื้นที่จำกัด การแกว่งแขนวันละ 30 นาที ก็เป็นอีกวิธีที่ได้ผล หากเรามีความตั้งใจจริง ปฏิบัติถูกต้องและสม่ำเสมอ สุขภาพที่แข็งแรงเราสามารถปฏิบัติได้ด้วยตัวเราเอง

ฉะนั้นจงจำไว้เสมอว่า กินให้เท่ากับการเผาผลาญ หากเราไม่ออกกำลังกายจะมีพลังงานเหลือ ใช้เป็นไขมันรอบรอบพุง พร้อมทั้งเกิดผลต่ออวัยวะต่างๆ ดังได้กล่าวไปแล้วข้างต้น

 

เรื่องราวเพิ่มเติม ตัวช่วย ตอบโจทย์
https://789beauty.com/

❥เดนิมพลัส วันละเม็ด
เผาผลาญแทนออกกำลังกาย
❥ ใช้หลักการ เน้นการเบิร์น Burn และการบล็อค Block โดยทำให้ร่างกายสามารถทำการ Burn ได้ตลอดทั้งวัน โดยทำให้เกิด กระบวนการเมตาบอลิซึม Metabolism ได้ตลอดทั้งวัน ยับยั้งย่อยแป้ง + ดักจับไขมัน แล้วขับถ่ายออก

เดนิมพลัส
เคล็ดลับดูแลรูปร่าง
Posted on Leave a comment

ชาเขียวกำจัดหน้าท้อง

ชาเขียว

สารต้านอนุมูลอิสระในชาเขียว
ไม่เพียงช่วยป้องกันโรคมะเร็งต่างๆเท่านั้นแต่ยังช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินได้อีกด้วย

ผลการวิจัยพบว่าผู้ออกกำลังกาย ซึ่งดื่มชาเขียววันละ 4 ถ้วย เป็นเวลา 12 สัปดาห์ ช่วยให้ไขมันหน้าท้องลดลงมากกว่าผู้ที่ออกกำลังกายเหมือนกัน แต่ดื่มเครื่องดื่มที่มีกาเฟอีนอื่นๆ ถึง 8เท่า นักวิจัยเชื่อว่า เป็นเพราะสารในชาเขียว ช่วยเร่งให้ไขมันสลายไปเร็วขึ้น

TIP นักวิจัยในญี่ปุ่นพบว่าสารต้านอนุมูลอิสระช่วยป้องกันไม่ให้เกล็ดเลือดจับตัวการซึ่งจะส่งผลให้เกิดการอุดตันใน Siri เลือดโดยผลการวิจัยพบว่าการดื่มชาเขียวอย่างน้อยวันละห้าขวดเป็นประจำช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหลอดเลือดสมองลงได้ 62 เปอร์เซ็นต์

เรื่องราวเพิ่มเติม ตัวช่วย ตอบโจทย์
https://789beauty.com/

❥เดนิมพลัส วันละเม็ด
เผาผลาญแทนออกกำลังกาย
❥ ใช้หลักการ เน้นการเบิร์น Burn และการบล็อค Block โดยทำให้ร่างกายสามารถทำการ Burn ได้ตลอดทั้งวัน โดยทำให้เกิด กระบวนการเมตาบอลิซึม Metabolism ได้ตลอดทั้งวัน ยับยั้งย่อยแป้ง + ดักจับไขมัน แล้วขับถ่ายออก

เดนิมพลัส
เคล็ดลับดูแลรูปร่าง
Posted on Leave a comment

7 อาหารตัวช่วย ลดอาการบวมน้ำ แก้ท้องอืด

บงมน้ำ

หลายๆ คนที่กำลังพยายามลดน้ำหนักลดหุ่น ดูแลรูปร่างให้สวยงาม เต็มที่ทั้งการออกกำลังกาย เลือกทานแต่อาหารสุขภาพแม้ตัวเลขน้ำหนักบนตราชั่งจะได้อย่างที่ตั้งใจ แต่พอหันมาดูที่ทรวดทรงองค์เอวของตัวเอง กลับยังรู้สึกว่ามันยังดูบวมๆ อืดๆ เหมือนไขมันส่วนเกินในร่างกายไม่ได้จากไปไหน

สาเหตุที่ทำให้ร่างกายบวมน้ำ
อาการแบบนี้น่าจะเป็นสัญญานบ่งบอกว่าคุณอาจอยู่ภาวะที่ร่างกาย “บวมน้ำ” ซึ่งมีที่มาได้จากหลายสาเหตุ ทั้งการรับประทานอาหารที่มีรสเค็ม เพราะ โซเดียม เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดการบวมน้ำ ซึ่งร่างกายต้องเก็บน้ำไว้เพื่อช่วยขับโซเดียมส่วนเกินออกจากไต รวมทั้งยังอาจเกิดจากการกินอาหารที่มีไฟเบอร์หรือกากใยมากเกินไป ส่งผลให้ท้องอืด รวมทั้งกลุ่มอาหารที่มีแก๊สสูง เช่น สะตอ หน่อไม้ฝรั่ง ชะอม และถั่วงอก แต่อาหารเหล่านี้สามารถลดแก๊สได้ด้วยการเลือกรับประทานที่ปรุงสุกแล้ว นอกจากนี้คุณผู้หญิงที่อยู่ในช่วงวันนั้นของเดือน ก็อาจส่งผลให้ร่างกายในช่วงเวลาดังกล่าวมีอาการตัวบวมได้เช่นกัน

7 อาหารตัวช่วย ลดอาการบวมน้ำ แก้ท้องอืด
สาวๆ อย่าเพิ่งกังวลใจ เพราะอาการตัวบวมน้ำ หรือพุงป่องเนื่องจากท้องอืด สามารถดูแลให้ลดลงได้ ด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่มีสรรพคุณบรรเทาอาการไม่พึงประสงค์เหล่านี้

1.แตงกวา
ในแตงกวาจะมีสารเควอซิทิท (quercetin) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ มีคุณสมบัติช่วยลดอาการบวมที่เกิดจากการสะสมน้ำในร่างกายเกิมความจำเป็น นอกจากนี้ แตงกวา ยังมีวิตามินซี ซึ่งดีต่อผิวช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นได้ดี

แตงกวา

2.อะโวคาโด
เพราะเป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลน้อย ปราศจากฟรุกโตสและซอร์บิทอล ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดการท้องอืดและก๊าซ นอกจากนี้ อะโวคาโด ยังมีเส้นใยที่ละลายน้ำได้ซึ่งช่วยในการย่อยแบคทีเรียในกระเพาะอาหาร ช่วยให้การย่อยอาหารของเราดีขึ้น ทำให้ไม่เกิดกรดในกระเพาะอาหาร

อะโวคาโด

3.มะเขือเทศ
อุดมไปด้วย โพแทสเซียม ช่วยลดอาการท้องอืดได้โดยการลดระดับโซเดียมในร่างกาย ในมะเขือเทศมีน้ำค่อนข้างเยอะ เมื่อรับประทานแล้วจะช่วยให้ร่างกายลดความต้องการของเหลวจากแหล่งอาหารอื่น

มะเขือเทศ

4.กีวี
ใน กีวี จะมีสารเอนไซม์แอกทินิดิน (actinidin) ซึ่งเป็นเอนไซม์ธรรมชาติที่ช่วยย่อยโปรตีนและป้องกันไม่ให้ท้องอืดได้ รวมทั้งเป็นแหล่งเส้นใยอาหารที่ละลายน้ำช่วยเพิ่มความสามารถในการย่อยอาหาร ป้องกันไม่เกิดอาการท้องอืด

กีวี

5.แตงโม
แตงโม เป็นผลไม้ที่มีน้ำค่อนข้างเยอะถึงร้อยละ 90 น้ำที่ได้จากการรับประทานแตงโมนอกจากจะช่วยให้ร่างกายสดชื่นแล้ว ยังช่วยขับโซเดียมส่วนเกินออกจากร่างกาย ปรับสมดุลของน้ำและโซเดียมในร่างกายให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม

แตงโม

6.หน่อไม้ฝรั่ง
แพทย์ผู้เชียวชาญกล่าวว่า สาเหตุของการบวมน้ำมักเป็นผลมาจาก เซลล์ในร่างกายกักเก็บน้ำส่วนเกินเอาไว้ โดยที่ไตไม่ได้รับสัญญาณที่จะปล่อยน้ำ หน่อไม้ฝรั่ง ช่วยทำหน้าที่เป็นยาขับปัสสาวะตามธรรมชาติเพื่อช่วยให้ร่างกายขับส่วนเกินของร่างกายน้ำได้ดีขึ้น

หน่อไม้ฝรั่ง

7.ผักใบเขียว
ผักใบเขียว มีส่วนผสมของแมกนีเซียม ที่ช่วยในการย่อยและดูดซึมสารอาหาร โดยเฉพาะพวกโซเดียม แคลเซียม โพแทสเซียม และ ฟอสเฟต รวมทั้งช่วยปรับสมดุลของเหลวในร่างกาย ซึ่งช่วยลดการเกิดท้องอืดได้

ผักใบเขียว
เป็นอย่างไรกันบ้างคะสาวๆ กับผักผลไม้ที่กินช่วยลดอาการบวมน้ำภายในร่างกายได้ อย่างไรก็ตาม ควรพยายามลดกินโซเดียมหรือลดการกินเค็มให้น้อยลงไปด้วยจะดีที่สุด เพราะรสเค็มเป็นตัวการทำให้ร่างกายบวมน้ำนั่นเอง แถมทำให้การลดน้ำหนักไม่ได้ผลอีกด้วย

เรื่องราวเพิ่มเติม ตัวช่วย ตอบโจทย์
https://789beauty.com/

❥เดนิมพลัส วันละเม็ด
เผาผลาญแทนออกกำลังกาย
❥ ใช้หลักการ เน้นการเบิร์น Burn และการบล็อค Block โดยทำให้ร่างกายสามารถทำการ Burn ได้ตลอดทั้งวัน โดยทำให้เกิด กระบวนการเมตาบอลิซึม Metabolism ได้ตลอดทั้งวัน ยับยั้งย่อยแป้ง + ดักจับไขมัน แล้วขับถ่ายออก

เดนิมพลัส
เคล็ดลับดูแลรูปร่าง
Posted on Leave a comment

มะเขือเทศเสริมกระดูก

มะเขือเทศ

 

มะเขือเทศได้ชื่อว่าเป็นอาหารที่มีสารต้านอนุมูนอิสระไลโคปีนสูงโดยผลวิจัยจากสหรัฐอเมริกาพบว่าผู้ที่รับประทานอาหารที่มีไลโคปีนสูงเป็นประจำโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิงสูงวัยช่วยป้องกันไม่ให้มวลกระดูกลดลงจากมะเขือเทศ ผักผลไม้อื่นที่มีหลายคบปีนสูงได้แก่แตงโมฝรั่ง ชมพู่ มะละกอ เป็นต้น

สรรพคุณของมะเขือเทศ

1. ช่วยให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับโรคหอบหืดได้มากถึง 45%
2. ช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อมหรืออัลไซเมอร์
3. ช่วยรักษาโรคลักปิดลักเปิด เลือดออกตามไรฟัน
4. ช่วยป้องกันการแข็งตัวของหลอดเลือด
5. มะเขือเทศมีฤทธิ์ในการช่วยขับปัสสาวะ
6. ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง
7. ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ
8. ช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดภาวะเส้นเลือดตีบ การเกิดโรคหัวใจวาย สำหรับผู้ที่สูบบุหรี่เป็นประจำ
9. ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจขาดเลือด
10. ช่วยในระบบย่อยในกระเพาะอาหารและช่วยในการขับถ่ายอุจจาระได้สะดวก
11. ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราหรือเชื้อราที่ปาก
12. ช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคมะเร็งลำไส้
13. ช่วยลดความเสี่ยงจากโรคมะเร็งต่อมลูกหมากในเพศชายได้ถึง 45% หากรับประทานมะเขือเทศเป็นประจำ
14. ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งรังไข่ในเพศหญิง
15. ซอสมะเขือเทศช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดหลังจากการหกล้มหรือถูกมีดบาดได้

ประโยชน์ของมะเขือเทศ

1. ช่วยบำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื่นสดใส ไม่แห้งกร้าน
2. มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดและชะลอการเกิดริ้วรัยแห่งวัย
3. น้ำมะเขือเทศช่วยเพิ่มความสดชื่นให้แก่ร่างกาย
4. ช่วยเสริมคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง
5. มีวิตามินเอซึ่งมีส่วนชวยบำรุงสายตา
6. มะเขือเทศมีเบตาแคโรทีนและฟอสฟอรัสในปริมาณมาก
7. มะเขือเทศช่วยในการรักษาสิว ด้วยการนำน้ำมะเขือเทศมาพอกผิวหน้าหรือฝานบาง ๆ แล้วนำมาแปะหน้าก็ได้
8. ช่วยทำให้ผิวหน้าเต่งตึงสดใส ด้วยการนำน้ำมะเขือเทศมาพอกผิวหน้าหรือฝานบาง ๆ แล้วนำมาแปะหน้าก็ได้
9. มะเขือเทศใช้นำมาทำเป็นน้ำผลไม้ โดยน้ำผลไม้ที่ขึ้นชื่อก็คือน้ํามะเขือเทศดอยคํา
10. เป็นที่นิยมนำมาทำเป็นอาหารได้หลายเมนู เช่น ข้าวผัด ซุป ยำต่าง ๆ เป็นต้น
11. ซอสมะเขือเทศหมักผม ด้วยการใช้มะเขือเทศหมักผมจะช่วยป้องกันการเปลี่ยนไปของสีผม อันเนื่องมาจากการว่ายน้ำในสระที่มีคลอรีน
12. ซอสมะเขือเทศนำมาใช้ขัดเครื่องประดับเงินชิ้นโปรดของคุณให้เงางามเหมือนเดิมได้ ด้วยนำซอสมะเขือเทศมาถูแล้วล้างน้ำออก
13. ซอสมะเขือเทศช่วยในการดับกลิ่นคาว เศษอาหาร กลิ่นปลาสลิดได้เหมือนกันนะ เพียงแค่เปิดฝาซอสทิ้งไว้ 1 คืนเท่านั้น

เรื่องราวเพิ่มเติม ตัวช่วย ตอบโจทย์
https://789beauty.com/

เดนิมพลัส วันละเม็ด
เผาผลาญแทนออกกำลังกาย
❥ ใช้หลักการ เน้นการเบิร์น Burn และการบล็อค Block โดยทำให้ร่างกายสามารถทำการ Burn ได้ตลอดทั้งวัน โดยทำให้เกิด กระบวนการเมตาบอลิซึม Metabolism ได้ตลอดทั้งวัน ยับยั้งย่อยแป้ง + ดักจับไขมัน แล้วขับถ่ายออก

เดนิมพลัส
เคล็ดลับดูแลรูปร่าง
Posted on Leave a comment

ควบคุมน้ำหนักไขมันลดลงดื่มนมถั่วเหลืองหรือนมไร้ไขมัน

นมถั่วหลือง

นมไร้ไขมันหรือนมถั่วเหลืองช่วยควบคุมน้ำหนัก

นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยนอร์เทิร์นอิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกาให้อาสาสมัครผู้หญิง ดื่มนมไร้ไขมันและนมถั่วเหลือง วันละ3 แก้ว เป็นเวลา 8 สัปดาห์

ผลการวิจัยพบว่าไม่ว่าจะดื่มนมไร้ไขมันหรือนมถั่วเหลือง

ล้วนช่วยให้น้ำหนักและไขมันลดลงในปริมาณเท่าๆกัน รวมทั้งช่วยให้เอวลดลงด้วย

นมถั่วหลือง
นมไร้ไขมันหรือนมถั่วเหลืองช่วยควบคุมน้ำหนัก

สำหรับผู้ที่ดื่มนมถั่วเหลือง ควรรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมสูง เช่น

ปลาตัวเล็กตัวน้อย กุ้งแห้ง กะปิและผักต่างๆ เพิ่มเติมด้วย เพราะป้องกันไม่ให้ร่างกายขาดแคลเซียม ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นในการเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง

 

เรื่องราวเพิ่มเติม ตัวช่วย ตอบโจทย์

❥เดนิมพลัส วันละเม็ด
เผาผลาญแทนออกกำลังกาย
❥ ใช้หลักการ เน้นการเบิร์น Burn และการบล็อค Block โดยทำให้ร่างกายสามารถทำการ Burn ได้ตลอดทั้งวัน โดยทำให้เกิด กระบวนการเมตาบอลิซึม Metabolism ได้ตลอดทั้งวัน ยับยั้งย่อยแป้ง + ดักจับไขมัน แล้วขับถ่ายออก

เดนิมพลัส
เคล็ดลับดูแลรูปร่าง
Posted on Leave a comment

กินป้องกันเหี่ยว

แสงแดดเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำร้ายผิวหนังนอกจากเสี่ยงเป็นมะเร็ง แล้วยัง…
ทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่นก่อนวัยอันควรอีกด้วยการรับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระฟลาโวนอยด์สูง..ช่วยลดอาการดังกล่าว

จากการทดสอบให้ผู้หญิงรับประทานสารฟลาโวนอยด์ วันละ 329 มิลลิกรัม(เท่ากับดื่มเครื่องดื่มช็อกโกแลตเข้มข้น3.5ออนซ์) เป็นเวลา 12 สัปดาห์

พบว่าช่วยป้องกันไม่ให้ผิวหนังมีรอยแดงจากการอยู่กลางแดดเป็นเวลานานได้ 25 เปอร์เซ็นต์ เพราะฟลาโวนอยด์ มีส่วนช่วยให้เลือดภายในเซลล์ผิวหนังไหลเวียนได้ดีขึ้น จึงป้องกันเซลล์ผิวหนังจากการถูกแสงแดดทำร้ายได้

อาหารที่มีโฟลวานอยด์สูง ได้แก่ช็อกโกแลต ชาดำ ชาเขียว กะหล่ำปลี แอปเปิ้ลแดง และบรอกโคลี เป็นต้น

เรื่องราวเพิ่มเติม ตัวช่วย ตอบโจทย์
https://789beauty.com/

เดนิมพลัส วันละเม็ด
เผาผลาญแทนออกกำลังกาย
❥ ใช้หลักการ เน้นการเบิร์น Burn และการบล็อค Block โดยทำให้ร่างกายสามารถทำการ Burn ได้ตลอดทั้งวัน โดยทำให้เกิด กระบวนการเมตาบอลิซึม Metabolism ได้ตลอดทั้งวัน ยับยั้งย่อยแป้ง + ดักจับไขมัน แล้วขับถ่ายออก

เดนิมพลัส

Posted on Leave a comment

อย่ามองข้ามมันเทศ

มันเทศอุดมไปด้วย วิตามินเอ วิตามินซีโฟเลต วิตามินอี ธาตุเหล็ก แคลเซี่ยม
นอกจากนี้ ยังมีไฟเบอร์สูงอีกด้วย

เมื่อเทียบกันแล้ว มันเทศมีสารอาหารต่างๆมากกว่าแครอท และมันฝรั่งเสียอีก และถ้าหากรับประทานมันเทศทั้งเปลือก จะช่วยให้ร่างกายได้รับ..เบต้าเคโรทีนเพิ่มขึ้น ถึง4 เท่า

ผลการวิจัยพบว่าการที่มันเทศ  มีสารอาหารสำคัญต่างๆสูง  ช่วยป้องกันโรคร้ายหลายโรค  เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง  รวมทั้งอัลไซเมอร์ด้วย

เรื่องราวเพิ่มเติม ตัวช่วย ตอบโจทย์
https://789beauty.com/

เดนิมพลัส วันละเม็ด
เผาผลาญแทนออกกำลังกาย
❥ ใช้หลักการ เน้นการเบิร์น Burn และการบล็อค Block โดยทำให้ร่างกายสามารถทำการ Burn ได้ตลอดทั้งวัน โดยทำให้เกิด กระบวนการเมตาบอลิซึม Metabolism ได้ตลอดทั้งวัน ยับยั้งย่อยแป้ง + ดักจับไขมัน แล้วขับถ่ายออก

เดนิมพลัส

 

Posted on Leave a comment

สูตรเด็ด!! ปลาแซลมอนทอดราดน้ำปลา

ปลาแซลมอนทอด

ปลาแซลมอนดิบ หรือสเต็กปลาแซลมอนคงจะเรื่องเก่าและไม่น่าตื่นเต้นไปแล้ว เมื่อเจอสูตร แซลมอนทอดราดน้ำปลา สูตรเด็ดจากแฟนเพจ Coe’s Kitchen เมนูไทยๆ แต่ใช้เนื้อปลาที่ขึ้นชื่อว่าอร่อยจากแดนอาทิตย์อุทัย เนื้อหวานฉ่ำ นำไปทอดจนเนื้อแซลมอนเป็นสีส้มอมชมพู บวกกับความเด็ดดวงของน้ำจิ้มซีฟู้ด เราไปดูส่วนผสมและวิธีทำกันเลยค่ะ
สูตร แซลมอนทอดราดน้ำปลา

ส่วนผสมแซลมอนทอดราดน้ำปลา
• เนื้อปลาแซลมอน 400-500 กรัม
• น้ำตาลทรายประมาณ 1 1/2 ชต.
• น้ำปลาดีประมาณ 4-5 ชต.
• น้ำมันงา 1 ชช.
• น้ำเปล่าประมาณ 2 ชต.
• น้ำมันพืช สำหรับทอด

น้ำจิ้มซีฟู้ดแซลมอนทอดราดน้ำปลา
• กระเทียมไทยแกะเปลือกประมาณ 2 ชต.
• รากผักชีหั่น 5 ราก
• พริกขี้หนูสวนสีเขียว 20 เม็ด (หรือตามชอบ)
• น้ำตาลทรายประมาณ 2 ชต.
• น้ำมะนาวประมาณ 5-6 ชต.
• น้ำปลาดีประมาณ 4 ชต.

วิธีทำแซลมอนทอดราดน้ำปลา
1 ผสมน้ำตาลทราย น้ำปลาดี น้ำมันงาและน้ำเปล่าเข้าด้วยกัน คนให้เข้ากันดี ชิมรสเพิ่มเติมตามชอบ พักไว้

2 ล้างเนื้อปลาแซลมอนแล้วซับให้แห้ง จากนั้นหั่นเป็นชิ้นๆ ใหญ่และหนาพอประมาณ พักไว้

3 ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชลงไป พอร้อนได้ที่ นำเนื้อปลาแซลมอนลงทอดจนสุก มีสีเหลืองสวยทั้งสองด้าน (ปลาแซลมอนไม่ต้องทอดนานนะคะ ไม่งั้นเนื้อปลาจะแข็ง) ตักขึ้นใส่จาน พักไว้

4 เทน้ำมันในกระทะออกให้เหลือประมาณ 1 ชต. จากนั้นใส่ส่วนผสมในข้อที่ 1 ลงไป ผัดจนเดือดและน้ำตาลละลายดี ปิดไฟ ตักราดลงบนเนื้อปลา เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ดค่ะ

5 น้ำจิ้มซีฟู้ด:ปั่นทุกอย่างเข้าด้วยกัน ชิมรสเพิ่มเติมตามชอบค่ะ

#mthai

เรื่องราวเพิ่มเติม ตัวช่วย ตอบโจทย์
https://789beauty.com/

เดนิมพลัส วันละเม็ด
เผาผลาญแทนออกกำลังกาย
❥ ใช้หลักการ เน้นการเบิร์น Burn และการบล็อค Block โดยทำให้ร่างกายสามารถทำการ Burn ได้ตลอดทั้งวัน โดยทำให้เกิด กระบวนการเมตาบอลิซึม Metabolism ได้ตลอดทั้งวัน ยับยั้งย่อยแป้ง + ดักจับไขมัน แล้วขับถ่ายออก

เดนิมพลัส

Posted on Leave a comment

ยิ่งอดมื้อเย็น ยิ่งส่งผลร้าย

งดมื้อเย็น

หลายคนที่อยากลดน้ำหนัก อาจจะเคยได้ยินถึงวิธีลดน้ำหนักด้วยการอดหรืองดอาหารมื้อเย็น ซึ่งโดยความเชื่อนี้ก็คือ หากเราไม่กินอาหารเลยในมื้อเย็นจะทำให้ผอมลงเร็วกว่า ความเชื่อนี้ถูกต้องจริงเหรอ และผลจากการอดอาหารมื้อเย็นจะทำให้ลดน้ำหนักได้ผลจริงๆ หรือเปล่าวันนี้เรามาทำความเข้าใจกันค่ะ

ทำไมต้องอดอาหารถึงจะทำให้เราผอมได้?
โดยพื้นฐานวิธีลดน้ำหนักที่ถูกต้องนั้น เราต้องกินอาหารให้ได้สารอาหารครบถ้วนตามที่ร่างกายต้องการ ในขณะเดียวกันพลังงานที่ได้จากอาหารในแต่ละวันนั้นหากเราได้รับมากกว่าพลังงานที่เราใช้ไปในแต่ละวัน พลังงานที่เหลือก็จะสะสมกลายเป็นไขมัน แต่หากวันไหนที่เราใช้พลังงานมากกว่าพลังงานที่ได้รับจากอาหาร ร่างกายก็จะนำเอาไขมันสะสมมาใช้งานเพื่อเป็นพลังงานทดแทน
ด้วยพื้นฐานเหล่านี้ทำให้หลายคนคิด (เอาเอง) ว่าการที่ร่างกายไม่รับพลังงานอะไรเลยจากอาหารในมื้อเย็น น่าจะทำให้ร่างกายได้รับพลังงานรวมในแต่ละวันน้อยลงอีก นอกจากนั้นก็คิดเองอีกว่าไม่กี่ชั่วโมงก็เข้านอนแล้วไม่ได้ทำกิจกรรมอะไร ไม่ต้องกินอะไรก็ได้ ทนหิวนิดหน่อยกินน้ำเปล่าอย่างเดียวก็น่าจะผอมได้เร็วกว่า

แต่หลายคนคงลืมไปว่า หลักการคิดแบบนี้อาจจะนำไปใช้ได้กับบุคคลบางกลุ่ม เช่น คนที่ไม่ต้องมีกิจกรรมมากมายในช่วงเย็นถึงดึกและนอนหลับแต่หัวค่ำ นอกจากนั้นเขาจะต้องได้รับสารอาหารที่เพียงพอตั้งแต่มื้อเช้าและมื้ออาหารกลางวันแล้ว

ในขณะที่คนในเมือง นักเรียน คนทำงาน ในยุคปัจจุบันที่กว่าจะเลิกงาน เลิกเรียน กว่าจะห้อยโหนฝ่าการจราจรเดินทางถึงบ้านก็เลยเวลามื้ออาหารเย็นแล้ว ทำให้มื้อเย็นกลายเป็นมื้อดึก ประกอบกับกิจกรรมในช่วงเดินทางกลับบ้านหรือช่วงเย็นนั้นต้องใช้พลังงานไปไม่ใช่น้อย เมื่อร่างกายใช้พลังงานมากร่างกายจึงต้องการพลังงานและสารอาหารเข้ามาทดแทนและซ่อมแซม แต่การอดอาหารคิดแต่ลดจำนวนพลังงานโดยไม่สนใจสารอาหารที่ร่างกายต้องการในการซ่อมแซมร่างกายนั้นกลับเป็นผลร้ายในอนาคต

นอกจากนั้นพฤติกรรมการสังสรรค์หลังเลิกงาน ฉลองวันเกิด ฉลองงานแต่งงานของเพื่อน ฯลฯ รวมถึงพฤติกรรมการกินอาหานแบบบุฟเฟ่ห์ที่กลายเป็นค่านิยมไปแล้วสำหรับวัยรุ่น ซึ่งโดยมากคนไทยมักจะสังสรรค์กันตอนมื้อเย็น ทำให้เราบริโภคอาหารในปริมาณที่มากและได้พลังงานเกินความจำเป็น

ด้วยเหตุนี้เมื่อใครที่อยากลดน้ำหนัก สิ่งแรกที่พวกเขาคิด (เอาเอง) ก็คือ งั้นเราอดอาหารมื้อเย็นดีกว่าเพราะจะได้ไม่ต้องกินเยอะแบบแต่ก่อน

การอดอาหารทำให้เราลดน้ำหนักได้จริงเหรอ
หากคุณใช้การอดมื้ออาหารใดมื้อหนึ่งแทนที่จะใช้การลดปริมาณการกินอาหารบางชนิดละก็ คุณอาจจะดีใจที่เห็นว่าตัวเลขน้ำหนักตัวบนตราชั่งลดลงในช่วงแรก แต่ในระยะยาวคุณจะพบว่าน้ำหนักตัวของคุณ รวมถึงสัดส่วนต่างๆ จะดีดกลับเพิ่มขึ้นกว่าเดิมมาก เพราะการอดอาหารเพื่อลดน้ำหนักนั้นจะทำให้กล้ามเนื้อของคุณถูกทำลายไปด้วย

เนื่องจากว่าร่างกายทำงานตลอดเวลา แม้คุณจะนั่ง เดิน นอน ฯลฯ แม้กระทั่งการใช้ความคิดร่างกายก็ต้องใช้พลังงานและเซลแต่ละเซลก็ทำงานและเสื่อมลง เซลล์เหล่านี้ต้องการพลังงานและสารอาหารเพื่อให้มันกลับมาทำงานได้ดีเหมือนเดิม

แต่เมื่อเราอดอาหารเพราะอยากลดจำนวนพลังงานที่ร่างกายได้รับในแต่ละวัน แต่ลืมคิดไปว่าร่างกายยังต้องการสารอาหารด้วย เมื่อร่างกายขาดสารอาหารร่างกายจะไปดึงเอากล้ามเนื้อ (ซึ่งเป็นโปรตีน) มาใช้งานทดแทนก่อน เนื่องจากเซลต้องใช้โปรตีนในการซ่อมแซมตัวเอง

ดังนั้นเมื่อเราอดอาหารมื้อใดมื้อหนึ่งเป็นเวลานานๆ กล้ามเนื้อของคุณจะเริ่มลดลง โดยถูกแทนที่ด้วยไขมันแทน นี่คือสิ่งที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อน!

แล้วต้องอดอาหารยังไงถึงจะลดน้ำหนักได้

เราไม่สนับสนุนให้คุณอดอาหารมื้อใดเลยสักมื้อเดียว!!

โปรดจำไว้ว่า ร่างกายคุณเสื่อมและถูกใช้ตลอดเวลาแม้กระทั่งการนั่งหายใจทิ้งไปวันๆ ก็ตาม!!!

ดังนั้นคุณไม่จำเป็นต้องอดอาหารในมื้อเย็นหรือมื้อใดเลย แต่การลดจำนวนพลังงานที่ได้รับจากอาหารต่างหากที่คุณแค่ลด ขอให้คำนึงถึงสารอาหารมากกว่า ขอให้คุณได้รับสารอาหารในทุกๆ มื้อ โดยผ่านอาหารที่ให้พลังงานต่ำ แค่นี้คุณก็สามารถลดน้ำหนักได้แบบง่ายๆ โดยไม่มีผลกระทบอะไรกับร่างกายมากแล้วละค่ะ

ข้อแนะนำอีกอย่างคือ ขอให้คุณเลือกทานบางอย่างและลดอาหารบางอย่างลงในมื้อเย็นหรือ 4-6 ชั่วโมงก่อนจะนอน

อาหารที่คุณควรหลีกหนีให้ไกลจากมื้อเย็นหรือก่อนนอนได้แก่ เมนูอาหารที่เน้นแป้ง น้ำตาล ชีส เนย

อาหารที่เราแนะนำให้คุณกินได้ในช่วงมื้อเย็นได้แก่ โปรตีน (ปลา, ถั่ว, ธัญพืชอื่นๆ), ผักและผลไม้

แต่ก็ไม่ใช่ว่ามื้อเย็นคุณจัดข้าวเหนียวทุเรียน, ข้าวเหนียวมะม่วง อันนี้ก็ตัวใครตัวมันนะคะ?

เมนูยอดนิยมที่มักจะแนะนำก็คือ การกินอาหารที่ให้โปรตีนที่มีกากใย ได้เคี้ยวมากหน่อย กินแล้วรู้สึกอิ่มท้อง

โปรดอย่าลืมว่าการได้เคี้ยวอาหารพร้อมกับการลิ้มรสต่างๆ ก็เป็นความสุขพื้นฐานของการกินของมนุษย์ทั่วๆ ไปเช่นกัน ดังนั้นจึงขอแนะนำเมนูเช่น ถั่วเขียว ถั่วแดงต้ม (ใส่น้ำตาลทรายแดงได้นิดหน่อย) หรือจะทานควบคู่กับผักสลัด หรือผลไม้ที่ให้กากใยมาก เช่น ส้ม กล้วย ส้มโอ แอ๊ปเปิ้ล หรือหากคุณต้องการทานเนื้อสัตว์ แนะนำปลานึ่งทานคู่กับผักลวกจิ้มน้ำพริกก็ได้เช่นกัน

แล้วถ้าอดใจกินอาหารจานโปรดไม่ได้… จะทำยังไงดี
การอดอาหารมื้อใดมื้อหนึ่งทันทีเป็นเรื่องยาก การเปลี่ยนอาหารที่ทานในแต่ละมื้อก็ยากเช่นกัน และแน่นอนว่าหากคุณต้องหักดิบเหมือนเลิกยาที่ถ้ำกระบอกละก็ คนที่มีกำลังใจที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะทำได้ ส่วนคนที่ไม่ไหวก็ต้องล้มเลิกและกลับไปอ้วนเหมือนเดิม
ดังนั้น มีเทคนิคง่ายๆ สำหรับผู้ที่อยากเริ่มต้นลดน้ำหนักดังนี้

 ถ้าคุณเป็นมือใหม่ ใจไม่แข็งพอ ให้ใช้การขยับมื้ออาหารเย็นให้เร็วขึ้น (ทานให้เสร็จก่อน 6 โมงเย็น หรือช้าสุดไม่ควรเกิน 6 โมงครึ่ง) ช่วงนี้อาจจะมีปัญหาทางสังคมบ้าง เพราะเพื่อนเราอาจจะชวนไปกินกันดึกกว่านั้น ก็จงทำใจแข็งซะ แต่ถ้าปลีกตัวออกจากสังคมไม่ได้ งั้นต้องใช้เทคนิคข้อต่อไปนะคะ
 เปลี่ยนเมนูและปริมาณอาหารที่กินในมื้อเย็น จากเดิมที่เคยฟาดเรียบในมื้อเย็น ก็ขอให้ลดลงเหลือเพียงจานเดียวไม่มีการเติมหรือเบิ้ลครั้งที่สอง การเปลี่ยนเมนูจากเดิมที่เน้นของทอด ของมัน ชีส เนย กะทิ ต่างๆ ก็เปลี่ยนเป็นปลา, อาหารจืดๆ โดยเปลี่ยนทีละน้อยเพื่อให้ร่างกายได้ปรับตัว ที่สำคัญคืออย่าเสียดายอาหารนะคะ อย่าห่วงงกกินกลัวไม่คุ้มเด็ดขาดหากคุณกำลังต้องการลดน้ำหนัก เพราะทุกคำที่คุณกินนั้นหมายถึงพลังงานที่ร่างกายต้องรับเข้าไป ซึ่งยิ่งกินมื้อดึกมากแค่ไหน มันก็เป็นภาระต่อร่างกายของคุณในวันต่อไปนั้นเอง

สรุปแล้วถ้าอดอาหารมื้อเย็น จะทำให้ผอมได้ไหม?
ถ้าคุณอด ไม่ยอมทานอะไรเลย ใช้น้ำเปล่าลูบท้องแล้วหวังว่าจะผอมละก็ ยินดีด้วยค่ะ เพราะคุณลดน้ำหนักได้จริงในช่วงแรก แต่ในระยะกลางและระยะยาวคุณจะกลับมามีน้ำหนักตัวและสัดส่วนที่อวบอ้วนกว่าเดิมแน่นอน
กล้าท้าคุณเลย!
เพราะความอยากอาหารนั้น หากคุณกดมันไปนานๆ สุดท้ายมันก็ต้องระเบิด (ที่เรียกว่า ตบะแตก) สักวันอยู่ดี ดีไม่ดีในมื้อถัดไปคุณก็กินแบบลืมตัวแล้วละค่ะ

นอกจากนั้นยิ่งอายุคุณมากเท่าไรการอดอาหารมื้อเย็นยิ่งส่งผลร้ายกับตัวคุณเองในระยะยาวมากขึ้น เพราะร่างกายคุณต้องซ่อมแซมและต้องการสารอาหารมากกว่าตอนสมัยวัยรุ่น คุณจะรู้สึกว่าคุณเพลีย และหน้าเหี่ยวๆ ร่างกายจะดูย้วยๆ ไม่สดชื่นเหมือนสมัยตอนอายุ 17-18 อีกต่อไป!

ดังนั้นขอสรุปเลยว่า หากคุณต้องการลดน้ำหนักด้วยวิธีอดอาหาร ไม่ว่าจะมื้อใดก็ตาม มันอาจจะช่วยให้คุณรู้สึกผอมได้ในช่วงแรกเท่านั้น แต่ในอีก 3 เดือน หรือ 1 ปีข้างหน้ามันไม่ดีต่อร่างกายคุณเลยสักนิดเดียว

เราขอแนะนำว่า ให้ใช้การปรับเวลาการกิน, เปลี่ยนเมนูอาหาร และปริมาณที่กินจะดีกว่า นอกจากจะได้ผลในระยะยาวแล้ว คุณยังมีสุขภาพใจ อารมณ์ดีอีกด้วย ไม่ต้องหงุดหงิด เพราะคุณยังคงได้กิน ได้เคี้ยวเหมือนเดิม เพียงแต่เลือกกินสักหน่อยแค่นี้ก็ลดความอ้วนได้แล้วค่ะ

เรื่องราวเพิ่มเติม ตัวช่วย ตอบโจทย์
https://789beauty.com/

เดนิมพลัส วันละเม็ด
เผาผลาญแทนออกกำลังกาย
❥ ใช้หลักการ เน้นการเบิร์น Burn และการบล็อค Block โดยทำให้ร่างกายสามารถทำการ Burn ได้ตลอดทั้งวัน โดยทำให้เกิด กระบวนการเมตาบอลิซึม Metabolism ได้ตลอดทั้งวัน ยับยั้งย่อยแป้ง + ดักจับไขมัน แล้วขับถ่ายออก

เดนิมพลัส

Posted on Leave a comment

การหัวเราะ มีประโยชน์มากกว่าที่คิด

การหัวเราะ

ประโยชน์ในการหัวเราะ

เสียงหัวเราะถือเป็นยาขนานเอก ที่ทุกคนมีติดตัวมาตั้งแต่เกิด ซึ่งก็แล้วแต่ว่าเราจะหยิบออกมาใช้หรือไม่ หรือบ่อยแค่ไหน ยิ่งในสังคมปัจจุบันที่ต้องเร่งรีบ พบเจอกับความเครียดเป็นประจำความวิตกกังวลต่างๆ อาจทำให้จิตใจเราเศร้าหมอง ขาดชีวิตชีวาในการดำเนินชีวิต บทความนี้มีสาระดีๆ เกี่ยวกับประโยชน์จากการหัวเราะ มาฝากกันจ้า

1.การหัวเราะทำให้มีความคิดสร้างสรรค์ คนเราเมื่ออารมณ์ดีจะทำให้มีความคิดสร้างสรรค์ ในงานวิจัยจากคณะจิตวิทยามหาวิทยาลัยโตรอนโตแคนาดา บอกว่า อารมณ์ของเราน่าจะมีผลต่อการประมวลผลข้อมูลของสมอง ถ้าอารมณ์ดี จะช่วยขยายความคิดสร้างสรรให้กว้างขึ้น ในทางกลับกัน ถ้าอยู่ในอารมณ์หวาดวิตก ถึงเครียดหรือ แม้แต่ความมุ่งมั่นมากเกินไป จะมีผลต่อความคิด จะมีผลต่อความคิด จะหดเข้ามา อารมณ์ดีหรือไม่ดี มีผลต่อกระบวนการคิด และแก้ปัญหาในเชิงสร้างสรรค์ของคนเรา

2.การหัวเราะช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด เมื่อหัวเราะร่างกาย จะหลั่งสารชีวเคมีตัวหนึ่งที่ชื่อว่า ❝endorphin ❞ หรือเรียกว่า “เพชฌฆาตความเจ็บปวด ” หรือสารที่มีฤทธิ์ทำให้เกิดความสุข ส่งผลทำให้อารมณ์ดี มีอารมณ์ขัน สมองก็จะมีการถูกกระตุ้น ให้เพิ่มพื้นที่การประมวลผลความคิดในเชิงบวก และสร้างสรรค์ มีผลทำให้ร่างกายและจิตใจได้รับการบำบัด และฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว คนป่วยที่อารมณ์ดีจะหายป่วย ได้เร็วกว่า คนป่วยที่อารมณ์ไม่ดี

3.การหัวเราะแก้โรคซึมเศร้า การหัวเราะจะช่วยทำให้ร่างกายหลั่งสารสื่อประสาทชื่อว่า ซีโรโทนิน (Serotonin) และ ดูพามีน (Dopamine) เพิ่มมากขึ้นทำให้จิตใจสงบเยือกเย็นผ่อนคลาย

4.การหัวเราะเพิ่มภูมิคุ้มกันโรค เมื่อหัวเราะร่างกายมีการหายใจเข้า การหายใจออก และหัวเราะหายใจออกยาวๆ ทำให้ร่างกายเกิดการเปลี่ยนถ่ายออกซิเจน ฟอกเลือดดำให้เป็นเลือดแดง จะทำให้เซลล์ประสาท หัวใจปอด คอ แข็งแรงขึ้น นอกจากนี้การหัวเราะยังช่วยบริหารร่างกาย ให้เกิดความร้อนและการเผาผลาญ พลังงานสูง ช่วยฆ่าเชื้อโรค และป้องกันโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ ทั้งไข้หวัดภูมิแพ้ หอบหืด ไซนัส กรน ความดันโลหิต โรคหัวใจ โรคปอด

5.การหัวเราะช่วยลดน้ำหนักและลดโรคทางเดินอาหาร เวลาเครียดร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนที่ชื่อว่า ❝คอร์ติซอล ❞(coltisol) ออกมา ทำให้เกิดความรู้สึกอยากอาหาร และกินมากขึ้น การหัวเราะ 30 วินาที ถึง 5 นาที 10 ครั้งต่อวัน จะช่วยให้ความอยากอาหารลดลง การหัวเราะช่วยให้อวัยวะส่วนท้อง อาทิ ลำไส้ใหญ่ ตับ ไต ไส้ กระเพาะ มีการเคลื่อนไหว เกิดการบริหารกระเพาะและลำไส้ ทำให้ระบบย่อยอาหาร และการขับถ่ายดีขึ้น ป้องกันโรคอ้วนท้องผูก ท้องเสีย โรคกระเพาะโรคลำไส้ เป็นต้น

6. การหัวเราะบริหารหัวใจ การหัวเราะเป็นการออกกำลังทุกส่วน ของร่างกาย ทำให้อวัยวะต่างๆได้เคลื่อนไหวเป็นจังหวะ เร็วบ้างช้าบ้าง หัวใจสามารถสูบฉีดเลือด ไปเลี้ยงส่วนต่างๆมากขึ้น หัวใจทำงานเป็นระบบขึ้น ป้องกันอาการเวียนศรีษะ ปวดศีรษะ อ่อนเปลี้ยเพลียแรง เหนื่อยง่าย เหนื่อยเร็วเจ็บแน่นหน้าอก โรคขาดเลือด เส้นเลือดหัวใจตีบตัน โรคหัวใจการหัวเราะเพียง 15-20 นาที ในแต่ละวัน ช่วยทำให้หัวใจได้ออกกำลังกาย 3- 5 นาทีถือเป็นการบริหารหัวใจง่ายๆ ที่เหมาะกับผู้สูงอายุ ที่นอนอยู่บนเตียง และเคลื่อนไหวร่างกายไม่ได้

ประโยชน์ของการหัวเราะมีมากมายขนาดนี้ เรามาลองเปลี่ยนตัวเอง เป็นคนยิ้มง่าย หัวเราะง่าย ไม่เครียดกันดีกว่านะคร้า เริ่มที่ตัวเรา ขยายไปคนใกล้ชิด คนในครอบครัว เพื่อนร่วมงานสังคมของเราก็จะน่าอยู่มากขึ้นนะจ้า