Posted on Leave a comment

กินลดน้ำตาล

กินลดน้ำตาล

การรับประทานอาหารช่วยควบคุมน้ำตาลได้ เช่น

✧ อาหารเช้า การรับประทานอาหารเช้าอย่างเต็มที่ตามหลักโภชนาการช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ไปตลอดทั้งวัน ส่งผลให้ไม่รู้สึกอยากอาหาร ซึ่งทำให้ต้องรับประทานจุกจิกในระหว่างวัน รวมทั้งลดความอยากรับประทานอาหารมื้อกลางวันและเย็นลงด้วย

✧ ถั่ว ธัญพืช ผักใบเขียว ผลการวิจัยจากสหรัฐอเมริกาพบว่าการรับประทานอาหารที่มีแมกนีเซียมสูง ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นเบาหวานลงได้ แต่ได้ผลเฉพาะการรับประทานแมกนีเซียมจากอาหาร ไม่ใช่จากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทั้งหลายที่วางขายในปัจจุบัน และหากได้ผลดีควรลดการรับประทานอาหารประเภทแป้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าวหรือขนมปังขัดขาวลงด้วย

✧ ไขมันไม่ใช่ผู้ร้ายเสมอไป ไขมันอาจฟังดูน่ากลัว สำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก แต่การไม่รับประทานไขมันเลยก็อาจไม่เป็นผลดีต่อร่างกายเท่าไหร่นัก เพราะไขมันช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลในเลือดเพียงแต่ควรเลือกรับประทานไขมันจากปลาและพืชเช่นถั่วต่างๆ

✧ อบเชยก็ช่วยได้ ผลการวิจัยจากศูนย์วิจัยอาหารในแมริแลนด์ สหรัฐอเมริกา พบว่า อบเชยมีส่วนประกอบซึ่งช่วยให้ร่างกายเผาผลาญน้ำตาลให้เป็นพลังงานได้เร็วขึ้น จึงช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ให้สูงเกินไปได้ นักวิจัยแนะนำว่าควรรับประทานอบเชยวันละ 1ส่วน4 ช้อนชา

 

เรื่องราวเพิ่มเติม ตัวช่วย ตอบโจทย์
https://789beauty.com/

❥เดนิมพลัส วันละเม็ด กระบองเพชรอินเดีย
เผาผลาญแทนออกกำลังกาย
❥ ใช้หลักการ เน้นการเบิร์น Burn และการบล็อค Block โดยทำให้ร่างกายสามารถทำการ Burn ได้ตลอดทั้งวัน โดยทำให้เกิด กระบวนการเมตาบอลิซึม Metabolism ได้ตลอดทั้งวัน ยับยั้งย่อยแป้ง + ดักจับไขมัน แล้วขับถ่ายออก

 

เดนิมพลัส
เคล็ดลับดูแลรูปร่าง
Posted on Leave a comment

ชาเขียวกำจัดหน้าท้อง

ชาเขียว

สารต้านอนุมูลอิสระในชาเขียว
ไม่เพียงช่วยป้องกันโรคมะเร็งต่างๆเท่านั้นแต่ยังช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินได้อีกด้วย

ผลการวิจัยพบว่าผู้ออกกำลังกาย ซึ่งดื่มชาเขียววันละ 4 ถ้วย เป็นเวลา 12 สัปดาห์ ช่วยให้ไขมันหน้าท้องลดลงมากกว่าผู้ที่ออกกำลังกายเหมือนกัน แต่ดื่มเครื่องดื่มที่มีกาเฟอีนอื่นๆ ถึง 8เท่า นักวิจัยเชื่อว่า เป็นเพราะสารในชาเขียว ช่วยเร่งให้ไขมันสลายไปเร็วขึ้น

TIP นักวิจัยในญี่ปุ่นพบว่าสารต้านอนุมูลอิสระช่วยป้องกันไม่ให้เกล็ดเลือดจับตัวการซึ่งจะส่งผลให้เกิดการอุดตันใน Siri เลือดโดยผลการวิจัยพบว่าการดื่มชาเขียวอย่างน้อยวันละห้าขวดเป็นประจำช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหลอดเลือดสมองลงได้ 62 เปอร์เซ็นต์

เรื่องราวเพิ่มเติม ตัวช่วย ตอบโจทย์
https://789beauty.com/

❥เดนิมพลัส วันละเม็ด
เผาผลาญแทนออกกำลังกาย
❥ ใช้หลักการ เน้นการเบิร์น Burn และการบล็อค Block โดยทำให้ร่างกายสามารถทำการ Burn ได้ตลอดทั้งวัน โดยทำให้เกิด กระบวนการเมตาบอลิซึม Metabolism ได้ตลอดทั้งวัน ยับยั้งย่อยแป้ง + ดักจับไขมัน แล้วขับถ่ายออก

เดนิมพลัส
เคล็ดลับดูแลรูปร่าง
Posted on Leave a comment

กฏเหล็กลดไขมัน

ลดไขมัน

1. ลดปริมาณคาร์โบไฮเดรตลง (เช่น ข้าว แป้ง น้ำตาล อาทิเช่น ขนมปัง ขนม น้ำผลไม้ น้ำปั้น )

Tip. การดื่มน้ำผลไม้คือเรื่องที่ผิดเพราะน้ำตาลสูงถ้าเลือกกินขอกินแบบเป็นผลดีกว่า

2. งดของมัน ทอด ถ้างดไม่ได้ก็ลดไปทีละนิด
Tip. เนื้อสัตว์ติดมัน ของชุบแป้งทอด

3. ให้มีผักในทุกๆมื้อ มีกากใบช่วยดัดไขมันได้ ช่วยการขับถ่ายท้องยุบ มีวิตามินช่วย
Tip. ผักกินได้เยอะกินเท่าไรก็ได้ แต่ล้างให้สะอาด ใครที่ไม่กินผักก็กินโยเกิร์ลได้ช่วยขับถ่าย (ดูฉลากเรื่องน้ำตาลและแคลลอลี่ดีๆ)

4. กินมื้อเช้าเพื่อกระตุ้นการเผาพลาญเต็มสูบ
Tip. กินมื้อเช้าช่วยให้เริ่มการเผาพลาญให้พลังงานแก่สมอง และจะไม่หิวโหยให้มื้อต่อๆไป

5. อย่าอดมื้อเย็นและกินระยะห่างก่อนนอน3-6ชม
Tip. มื้อเย็นควรงดเด็ดขาดอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต เช่น ข้าว แป้ง น้ำตาล ควรทานอาหารที่มีโปรตีน เน้นไก่ ปลา

6.หิวระหว่างวันกินไรดี?? กินผลไม้ที่มีแคลน้อยเช่น แก้วมังกร แตงโมง แคนตาลูป ฝรั่ง และน้ำเปล่า ถั่ว1กำมือ

7. กินน้ำเยอะร่างกายยิ่งไม่บวม ช่วยการเผาพลาญ ผิวชุ่มชื่น จางโซเดียม ลดอาการบวมน้ำ

8. ออกกำลังกายต่อเนื่อง40นาทีขึ้นไป เหงื่อออกเยอะไม่ใช่ไขมัน ไขมันไม่ขับทางเหงื่อ ร่างกายจะเอาไขมันมาใช้ในเวลา40นาทีขึ้นไป

9. ตั้งเป้าหมายที่ละน้อยๆ เช่น ทีละ3โล

10. เพื่อนชวนแดกอย่าไป 55++ ไม่มีใครยอมเสียค่าบุฟเฟต์แพงๆเพื่อไปแดกผักต้มหรอก

11. กินของที่อยากกินได้ 1 มื้อ ต่อสัปดาห์ (ถ้าไม่กินก็จะเห็นผลเร็วกว่านี้)

เรื่องราวเพิ่มเติม ตัวช่วย ตอบโจทย์
https://789beauty.com/

❥เดนิมพลัส วันละเม็ด
เผาผลาญแทนออกกำลังกาย
❥ ใช้หลักการ เน้นการเบิร์น Burn และการบล็อค Block โดยทำให้ร่างกายสามารถทำการ Burn ได้ตลอดทั้งวัน โดยทำให้เกิด กระบวนการเมตาบอลิซึม Metabolism ได้ตลอดทั้งวัน ยับยั้งย่อยแป้ง + ดักจับไขมัน แล้วขับถ่ายออก

เดนิมพลัส
เคล็ดลับดูแลรูปร่าง
Posted on Leave a comment

10ประโยชน์เมล็ดฟักทอง

เมล็ดฟักทอง

ในเมล็ดฟักทองมี แมงกานีส แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส ทองแดง สังกะสี เหล็ก ทริปโตเฟนและโปรตีน อยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งยังเป็นแหล่งรวมของวิตามิน E K C และ B นอกจากนี้เมล็ดฟักทองยังอุดมไปด้วยโปรตีนและกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกายอีกหลายชนิด ข้อดีของเมล็ดฟักทองคือ มีผลผลิตตลอดทั้งปี ไม่ต้องแช่เย็น พกพาได้สะดวก และยังมีรสชาติหวานอร่อย เป็นอาหารว่างชั้นดีที่คุณควรมีติดบ้านหรือสำนักงานไว้ และนี่คือ 10 คุณประโยชน์ของเมล็ดฟักทอง

1. ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี
การบริโภคเมล็ดฟักทองสามารถช่วยลดระดับของ LDL (คอเลสเตอรอลที่ไม่ดี) ในร่างกายของเราได้ ใน 2012 วารสารทางการแพทย์ของแอฟริกันได้ตีพิมพ์ข้อมูลหนึ่ง นักวิจัยพบว่า หนูที่เลี้ยงด้วยเมล็ดฟักทองมีระดับ HDL (คอเลสเตอรอลชั้นดี) เพิ่มขึ้นและระดับ LDL (คอเลสเตอรอลที่ไม่ดี) ลดลงอย่างเห็นได้ชัด กินเมล็ดฟักทองอบแห้ง 2-4 ช้อนโต๊ะทุกวัน โดยไม่ต้องเพิ่มเกลือหรือปรุงรสใดๆเพื่อช่วยลดระดับ LDL ของคุณ

2. การควบคุมน้ำตาลในเลือด
ใน 2010 วารสารโรคเบาหวานและภาวะแทรกซ้อนได้ทำการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเมล็ดฟักทองกับโรคเบาหวาน การศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า เมล็ดฟักทองสามารถช่วยควบคุมระดับอินซูลินและป้องกันภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวานโดยการลดสภาวะความเครียดออกซิเดชัน (oxidative stress) นอกจากนี้ยังพบว่ามีสารเคมีในน้ำมันเมล็ดฟักทองช่วยป้องกันโรคไตจากเบาหวานได้อีกด้วย คนที่เป็นโรคเบาหวานสามารถรับประมาณเป็นอาหารว่างเพื่อสุขภาพ โดยกินได้ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะต่อวัน

3. ต่อต้านโรควิตกกังวล
ในปี 2007 การศึกษาของ Canadian Journal of Physiology and Pharmacology พบว่าทริปโตเฟน (tryptophan) ที่พบในเมล็ดฟักทองช่วยบรรเทาความวิตกกังวล สมองใช้​ทริปโตเฟนเพื่อทำให้คุณรู้สึกมีความสุขและสบายใจ หากร่างกายมีทริปโตเฟนน้อยเกินไปก็สามารถนำไปสู่​​ภาวะซึมเศร้าและความผิดปกติท​​างอารมณ์อื่นๆ เมื่อคุณรู้สึกว่ามีเครียดมากหลังจากวันทำงานที่ยาวนาน รับประทานเมล็ดฟักทองคั่วจะช่วยให้คุณสงบลงได้

4. บรรเทาอาการโรคข้ออักเสบ
เมล็ดฟักทองและน้ำมันในเมล็ดมีคุณสมบัติช่วยลดอาการปวดและการอักเสบในข้อต่อ จึงเป็นประโยชน์มากในการรักษาโรคข้ออักเสบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคเข่าเสื่อมและโรคไขข้ออักเสบ ในปี 1995 วารสารเภสัชวิทยาวิจัยเกี่ยวกับน้ำมันเมล็ดฟักทองพบว่า สามารถรักษาโรคข้ออักเสบได้และยังไม่มีผลข้างเคียงอีกด้วย เพื่อลดการอักเสบของโรคข้ออักเสบ ควรการนวดบริเวณที่ได้รับผลกระทบด้วยน้ำมันเมล็ดฟักทองวันละ 2 ครั้งเป็นเวลา 10 นาที

5. ดีต่อกระเพาะปัสสาวะและต่อมลูกหมาก
เมล็ดฟักทองสามารถป้องกันภาวะกระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวกว่าปกติ (Overactive Bladder) และช่วยรักษาอาการต่อมลูกหมากโต โดยสารไฟโตสเตอรอล (Phytosterols) ที่พบในเมล็ดฟักทองช่วยลดขนาดต่อมลูกหมากโตได้ นอกจากนี้สังกะสียังช่วยลดการปัสสาวะบ่อยในช่วงเวลากลางคืน

6. ปกป้องกระดูก
เมล็ดฟักทองเป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยแมกนีเซียม ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการพัฒนาของกระดูกและป้องกันโรคกระดูกพรุน แร่ธาตุเหล่านี้ยังช่วยลดความเสี่ยงของกระดูกหัก การรับประทานเมล็ดฟักทอง 1/4 ถ้วยทุกวัน สามารถลดอาการโรคกระดูกพรุนได้

7. ปรับปรุงสุขภาพหัวใจ
เมล็ดฟักทองมีแมกนีเซียมที่จะช่วยในการทำงานของหัวใจและช่วยควบคุมความดันโลหิตสูง ทั้งมีบทบาทสำคัญในจังหวะการเต้นของหัวใจซึ่สามารถป้องกันการเกิดหัวใจหยุดเต้นฉับพลันได้ และทองแดงในเมล็ดฟักทองยังช่วยเพิ่มจำนวนเม็ดเลือดแดงและเพิ่มการไหลเวียนของออกซิเจนในเลือด

8. ป้องกันสู้พยาธิในลำไส้
เมล็ดฟักทองมีคุณสมบัติที่ช่วยในการกำจัดพยาธิตัวตืด พยาธิเข็มหมุดและปรสิตอันตรายอื่น ๆ ในลำไส้ ข้อมูลจากหนังสือ The Doctors Book of Home Remedies.

9. การนอนหลับ
เมล็ดฟักทองมีทริปโตเฟนอยุ่เป็นจำนวนมากซึ่งร่างกายใช้แปลงเป็นเซโรโทนิน (serotonin) และเมลาโทนิน (Melatonin) เพื่อช่วยในการนอนหลับพักผ่อนยามค่ำ​​คืน ผสมผงเมล็ดฟักทอง 1 ช้อนโต๊ะในแก้วนมอุ่นๆทานก่อนนอนอย่างน้อย 1 ชั่วโมง

10. ช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน
เมล็ดฟักทองอุดมไปด้วยสังกะสีที่ช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันของคุณ หากขาดธาตุสังกะสีมากๆจะทำให้ร่างกายอ่อนแอ เป็นหวัดง่าย เกิดสิวและปัญหาสุขภาพอื่น ๆ อีกมากมาย

นอกจากนี้เมล็ดฟักทองยังมีสารต้านอนุมูลอิสระอีกหลายชนิดที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย อย่างเช่นซีลีเนียมจะช่วยร่างกายสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว

เรื่องราวเพิ่มเติม ตัวช่วย ตอบโจทย์
https://789beauty.com/

❥เดนิมพลัส วันละเม็ด
เผาผลาญแทนออกกำลังกาย
❥ ใช้หลักการ เน้นการเบิร์น Burn และการบล็อค Block โดยทำให้ร่างกายสามารถทำการ Burn ได้ตลอดทั้งวัน โดยทำให้เกิด กระบวนการเมตาบอลิซึม Metabolism ได้ตลอดทั้งวัน ยับยั้งย่อยแป้ง + ดักจับไขมัน แล้วขับถ่ายออก

เดนิมพลัส
เคล็ดลับดูแลรูปร่าง
Posted on Leave a comment

10 วิธีเผาผลาญแคลอรี่ อย่างง่ายๆ

เผาเผาลาญ
เผาผลาญ แคลอรี่
10วิธีการเผาผลาญแคลอรี่อย่างง่าย

วันนี้เรามีวิธีการเผาผลาญแคลอรี่อย่างง่ายๆ ที่ใครก็ทำได้มานำเสนอ

10. นอนหลับ

การนอนหลับสนิท ความลับที่เพิ่งจะค้นพบก็คือ กล้ามเนื้อเรียบในร่างกายเรา จะทำงานเผาผลาญแคลอรี่ ได้ดีที่สุดในชั่วโมงหลังๆ ที่เราหลับสนิทเต็มที่ ร่างกายจะหลั่งฮอร์หนุ่มสาว โกรธฮอร์โมน อีกด้วย ควรพักผ่อนอย่างน้อยวันละ 8ชั่วโมง และยิ่งนอนดึกยิ่งอ้วนอีกด้วย

9. อย่าเครียด

ความเครียดจะทำให้เราอ้วนขึ้น เพราะฮอร์โมนคอร์ติโซนจะไปทำให้อัตราดูซึมของเมตาบอลิซึ่มช้าลง

8.ดื่มน้ำเยอะ

การดื่มน้ำในปริมาณมากพอต่อวัน จะช่วยขับสารพิษ หลังจากที่ร่างกายเผลาผลาญพลังงานแล้ว น้ำเย็นๆ ยังช่วยกระตุ้นให้เมตาบอลิซึ่มทำงานดีขึ้นนิดหนึ่งด้วย วิธีดื่มน้ำที่ถูกต้อง ดื่มบ่อยๆทุกครึ่งชั่วโมง หรือทุกชั่วโมง ต่อน้ำหนักตัว25kg. ต่อน้ำ1 ลิตร ต่อวัน เช่น น้ำหนัก 50 ต้องดื่มน้ำไม่ต่ำกว่า 2ลิตร ต่อวัน

7.ดื่มชาเขียว

เครื่องดื่มชาเขียว เป็นเครื่องดื่มที่ช่วยเร่งเมตาบอลิซึ่มได้ดีและปลอดภัยกว่ากาแฟ แถมมีประโยชน์อีกด้วย

6.กินอาหารเผ็ดร้อน

การรับประทานอาหารประเภทเผ็ดร้อน รสจัด จะช่วยเร่งการเผาพลาญร่างกายของคุณจากภายในให้รวดเร็วยิ่งขึ้นไปอีก

5.กินอาหารเช้า

เป็นความจริงที่ว่า คนที่กินอาหารเช้าที่มีประโยชน์ หุ่นดีกว่า คนที่อดข้าวเช้า และอาหารเช้ายังทำให้ระดับ เมตาบอลิซึ่ม ของคุณวันนั้นพุ่งเป็น 2 เท่าด้วย

4.งดน้ำตาล

เหตุผลง่ายๆ ก็คือ น้ำตาลที่เหลือใช้แล้ว ร่างกายจะแปรสภาพเป็นไขมัน เพราะฉะนั้น ลดน้ำตาล ก็จะช่วยลดไขมันไปในตัว ต่อหนึ่งวัน ไม่ควรได้รับน้ำตาล เกิน4ช้อนชา

3.กินบ่อยๆ

ยิ่งร่างกายคุณขาดสารอาหาร กล้ามเนื้อก็จะล้า การเผาผลาญก็จะน้อยลง ทางที่ดีกินเป็นมื้อเล็กๆ วันละ 3-4 มื้อ ยังดีกว่าอดอาหารไปเลย ยิ่งอดคาร์โบรไฮเดรต มวลกล้ามเนื้อยิ่งหาย  มีผลกับระบบการเผาผลาญในร่างกาย เพิ่มมวลกล้ามเนื้อโดยการเพิ่มสารอาหารกลุ่มโปรตีน หรือ ออกกำลังกาย

2.ขยับตัว

อยากจะเผาผลาญแคลอรี่ให้เร็วที่สุด ก็ต้องออกกำลังกายอย่างน้อย ออกเดิน 30 นาที หรือ 1 ชม. วิ่งเหยาะๆ หรือเต้นแอโรบิกอาทิตย์ละ 3 ครั้ง ไม่ว่าจะออกกำลังกายแบบไหนก็ช่วยเพิ่มเมตาบอลิซึ่มทั้งนั้นล่ะ ให้หัวใจได้เต้นแรงเต็มที่ 120 ครั้งต่อนาที ให้ต่อเนื่องนานสัก 30-45 นาที

1.เสริมสร้างกล้ามเนื้อ

“ยิ่งคุณมีกล้ามเนื้อเรียบมาก ร่างกายคุณก็จะเผาผลาญพลังงานมาก” การยกดัมเบลล์อย่างน้อยอาทิตย์ละ 2 ครั้ง ก็จะช่วยเพิ่มเมตาบอลิซึ่ม เหมือนกัน และช่วงที่ระดับเมตาบอลิซึ่มคุณจะพุ่งสุดขีดนั่นเอง ไม่ใช่ตอนที่คุณวิ่งหอบแฮกๆ บนสายพานหรอกนะแต่หลังจากนั้นอีกสัก 2- 3 ชม.

เรื่องราวเพิ่มเติม ตัวช่วย ตอบโจทย์

❥เดนิมพลัส วันละเม็ด
เผาผลาญแทนออกกำลังกาย
❥ ใช้หลักการ เน้นการเบิร์น Burn และการบล็อค Block โดยทำให้ร่างกายสามารถทำการ Burn ได้ตลอดทั้งวัน โดยทำให้เกิด กระบวนการเมตาบอลิซึม Metabolism ได้ตลอดทั้งวัน ยับยั้งย่อยแป้ง + ดักจับไขมัน แล้วขับถ่ายออก

เดนิมพลัส
เคล็ดลับดูแลรูปร่าง